Social Icons

แสดงบทความที่มีป้ายกำกับ สุขภาพช่องปาก แสดงบทความทั้งหมด
แสดงบทความที่มีป้ายกำกับ สุขภาพช่องปาก แสดงบทความทั้งหมด

วันอังคารที่ 4 มิถุนายน พ.ศ. 2556

เลือดออกตามไรฟัน

สุขภาพเหงือกและฟันเป็นสิ่งสำคัญที่หลายๆท่านอาจมองข้ามไป จากผลการวิจัยในปัจจุบันพบว่าสุขภาพเหงือกและฟัน มีส่วนเกี่ยวข้องกับโรคร้ายแรงอื่นๆได้เช่นกัน
         สุขภาพเหงือกและฟันเป็นสิ่งสำคัญที่หลายๆท่านอาจมองข้ามไป จากผลการวิจัยในปัจจุบันพบว่าสุขภาพเหงือกและฟัน มีส่วนเกี่ยวข้องกับโรคร้ายแรงอื่นๆได้เช่นกัน 
อาการเลือดออกตามไรฟันนั้น นับว่าเป็นความผิดปกติอย่างหนึ่งของเหงือก และเกิดได้จากหลายสาเหตุ เช่น

- เหงือกอักเสบติดเชื้อ หรือเป็นโรคเหงือก มักมีเลือดออกง่าย เพราะอาการอักเสบทำให้เหงือกมีเลือดมาเลี้ยงมาก เนื่องจากร่างกายต้องการภูมิคุ้มกันมายับยั้งแบคทีเรีย
- เชื้อแบคทีเรียบริเวณร่องเหงือก หรือไรฟัน
- เกิดแผลจากการแปรงฟัน หรือขัดฟัน
- การขาดวิตามินซี
- โรคไข้เลือดออก
- กระบวนการเกิดลิ่มเลือดผิดปกติ

เหงือกและฟัน

ควรทำอย่างไรหากพบว่ามีเลือดออกตามไรฟัน ?

ถ้า หากท่านมีเลือดออกตามไรฟันและมีไข้ตามมา มีอาการปวดเมื่อย ปวดท้อง เลือดกำเดาไหล หรือเลือดออกที่ส่วนอื่นๆของร่างกายด้วยควรรีบไปโรงพยาบาลโดยด่วน

หากเหงือกบวม มีอาการคันที่เหงือก ควรพบทันตแพทย์เพื่อตรวจดูอาการของโรคเหงือก

การป้องกันเลือดออกตามไรฟัน

ใช้แปรงสีฟันที่มีคุณภาพ และขนแปรงไม่แข็งจนเกินไป
แปรงฟันอย่างถูกวิธี และดูแลสุขภาพเหงือกและฟันอย่างสม่ำเสมอ
พบทันตแพทย์เพื่อตรวจสุขภาพเหงือกและฟันทุก 6 เดือน
รับประทานอาหารที่อุดมไปด้วยวิตามินซี

การป้องกันฟันผุ

ฟันผุสามารถทำลายโครงสร้างที่ดีของเหงือกและฟัน และสามารถส่งผลกระทบต่อสารเคลือบฟัน และเนื้อเยื่อชั้นต่างๆของฟันได้
         ฟันผุสามารถทำลายโครงสร้างที่ดีของเหงือกและฟัน และสามารถส่งผลกระทบต่อสารเคลือบฟัน และเนื้อเยื่อชั้นต่างๆของฟันได้ 
ฟันผุเกิดจากอาหารที่มีคาโบไฮเดรต ( อาหารจำพวกแป้งต่างๆ รวมไปถึงน้ำตาล ) เช่น ขนมปัง, นม, โซดา, เค้กต่างๆ หรือลูกอมต่างๆ แบคทีเรียในช่องปากที่ทำหน้าที่ย่อยอาหารเหล่านี้จะไปทำให้แป้งหรือน้ำตาลเหล่านี้กลายเป็นกรด และเปลี่ยนสภาพเป็นแผ่นยึดติดกับฟัน กรดเหล่านี้ก็จะมาทำลายผิวเคลือบฟัน และจะสร้างหลุมในฟันของเรา หรือที่เรียกว่า "ฟันผุ"นั่นเอง
ฟันผุ

การป้องกันฟันผุ

- ควรแปรงฟันอย่างน้อยวันละ 2 ครั้งด้วยยาสีฟันที่มีฟลูออไรด์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งการแปรงฟันทุกครั้งหลังอาหาร และก่อนนอน
- ทำความสะอาดฟันเป็นประจำ เช่นการใช้ไหมขัดฟัน หรือแปรงพิเศษสำหรับขัดฟัน เป็นต้น
- รับประทานอาหารให้มีความสมดุลของสารอาหาร เช่น ไม่รับประทานแต่ของหวาน หรือขนมขบเคี้ยวเพียงอย่างเดียว การรับประทานอาหาร ควรรับประทานอาหารให้ครบ 5 หมู่ หลีกเลี่ยงอาหารพวกขนมหวานหรือขนมขบเคี้ยวที่เป็นแป้งหรือน้ำตาลที่ติดฟัน ถ้าจำเป็นต้องรับประทานอาหารเหล่านี้ ควรแปรงฟันทุกครั้งหลังอาหาร
- สอบถามทันตแพทย์ เรื่องการใช้ฟลูออไรด์สำหรับเพิ่มความแข็งแรงให้กับฟันอยู่เป็นประจำ
- ปรึกษาทันตแพทย์เรื่องการอุดฟัน และรักษาอาการผิดปกติต่างๆของช่องปากอยู่เป็นประจำ

นักวิจัยของสหรัฐอเมริกากล่าวว่าสารฟลูออไรด์สามารถช่วยป้องกันฟันผุได้เช่นกัน ดังนั้นจึงควรเลือกใช้ยาสีฟันที่ผสมสารฟลูออไรด์ด้วย

แลการวิจัยใหม่ของ American Dental Association พบว่าการเคี้ยวหมากฝรั่งที่มีสารให้ความหวานไซลิทอล สามารถช่วยยับยั้งการเจริญเติบโตของแบคทีเรียที่ทำให้เกิดฟันผุได้ นอกจากนี้กลุ่มนักวิจัยยังทำการค้นคว้าเกี่ยวกับวัสดุที่สามารถปล่อยสารฟลูออไรด์ออกมาอย่างช้าๆ วัสดุเหล่านี้อาจจะถูกฝังไว้ในหลุมหรือร่องฟันเล็กๆ เพื่อปล่อยสารฟลูออไรด์ออกมา เพิ่มความแข็งแรงให้กับฟันและยังสามารถป้องกันฟันผุได้อีกด้วย...

ฟันคุด ปัญหากวนใจของใครหลายๆ คน

ปัญหาช่องปาก โดยเฉพาะเรื่องฟันสร้างปัญหาให้กับหลายๆ คนได้มากที่เดียว ยิ่งถ้ามีอาการปวดตามมาด้วย นั้นอาจจะทำให้คุณหงุดหงิดใจ หรือจะทานอะไรเข้าไปก็ยิ่งทำให้คุณยิ่งปวดเข้าไปอีก
         ปัญหาช่องปาก โดยเฉพาะเรื่องฟันสร้างปัญหาให้กับหลายๆ คนได้มากที่เดียว ยิ่งถ้ามีอาการปวดตามมาด้วย นั้นอาจจะทำให้คุณหงุดหงิดใจ หรือจะทานอะไรเข้าไปก็ยิ่งทำให้คุณยิ่งปวดเข้าไปอีก 
 

ฟันคุด ปัญหากวนใจของใครหลายๆ คน

ฟันคุด เกิดจากฟันบางส่วนขึ้นมา หรือฟันนั้นฝังอยู่ในขากรรไกรทั้งหมด โดยปกติมักจะพบในฟันกรามแท้ซี่ในสุด หากปล่อยไว้ก็จะเป็นปัญหามากมาย

เช่น ฟันคุดจะดัน พยายามขึ้นจนฟันหน้าบิดเกเป็นซีสต์ในภายหลังเป็นต้น แม้จะขึ้นได้บางส่วน แต่ก็มักจะขึ้นไม่ตรง ทำให้ไม่สามารถเคี้ยวอาหารได้ตามปกติ แต่มักจะทำความสะอาดยากขึ้น และฟันซี่ติดกันผุดด้านข้าง จนหลายคนไม่ต้องผ่าแต่ถอนออกเป็นคู่เลย จึงไม่มีเหตุผลอะไรที่จะเก็บเอาไว้ การผ่าฟันคุด ผ่าไม่นานและไม่เจ็บมาก พักฟื้นแค่ 7 วัน ก็มาตัดไหมที่เย็บ การรับประทานอาหารได้เป็นปกติแล้วล่ะ

การแปรงฟันที่ถูกต้อง เรื่องง่ายๆ ที่ไม่ควรละเลย

เราควรแปรงวันละสองครั้ง เป็นวิธีที่ง่ายที่สุดเพื่อหลีกเลี่ยงการฟันผุและโรคเหงือก แต่ต้องแปรงอย่างถูกต้องด้วยนะคะ
         เราควรแปรงวันละสองครั้ง เป็นวิธีที่ง่ายที่สุดเพื่อหลีกเลี่ยงการฟันผุและโรคเหงือก แต่ต้องแปรงอย่างถูกต้องด้วยนะคะ 
การแปรงฝันเป็นการดูแลสุขอนามัยของช่องปากที่เป็นประจำของคุณ ฉะนั้นไม่ควรที่จะละเลยอย่างยิ่ง ไม่ว่าจะเป็นเด็กหรือผู้ใหญ่
เพื่อสุขภาพของปากที่ดีและรอยยิ้มสวยๆ ยิ้มแบบมั่นใจ ของคุณเอง
แนะนำให้เลือกขนแปรงที่อ่อนและเหมาะสมกับช่องปากของคุณ ไม่เล็กหรือใหญ่ไป ช่วยให้เข้าถึงพื้นที่ในช่องปากทั่วทั่งหมด
ควรเปลี่ยนแปรงสามถึงสี่เดือนหรืออาจจะเร็วกว่านั้น หากขนแปรงหลุดลุ่ย พร้อมทั้งตรวจสอบคุณภาพของยาสีฝันที่คุณเลือกใช้ ว่าผ่านมาตรฐานหรือเปล่า
เทคนิคการแปรงฟันที่ถูกต้องคือ 

- วางแปรงสีฟันของคุณที่มุม 45 องศากับเหงือกของคุณ
- แปรงฟันบน ปัดลงด้านล่าง และฟันล่างปัดขึ้นบน อย่างนุ่มนวลเป็นจังหวะ
- แปรงด้านนอก ด้านใน ด้านที่เคี้ยวอาหาร ให้ครบทุกด้าน ไม่ควรแปรงแรงๆ เพราะจะทำให้มีเลือดออกตามล่องเหงือกได้
- ในการแปรงด้านในนั้นให้ เอียงแปรงในแนวตั้งและแปรงขึ้นลงหลายๆครั้ง
- แปรงลิ้นของคุณเพื่อกำจัดแบคทีเรียและให้ลมหายใจของคุณสดชื่น
สุขภาพช่องปาก การแปรงฟัน
เท่านี้ก็หมดแล้วค่ะ สำหรับการแปรงฟันอย่างถุกวิธี
แต่การแปรงฟันยังไม่ไช่วิธีที่ทำให้ปากของคุณสะอาดทั้งหมด
แนะนำเพิ่มเติมด้วยไหมขัดฟันทำความสะอาดที่ขนแปรงไม่สามารถเข้าถึงได้ และยังจะช่วยให้กำจัดคราบจุลินทรีย์และเศษอาหารจากฟันและเหงือกของคุณอีกด้วย
สุดท้ายหากใครยังสงสัยเพิ่มเติมสามารถไปหาหมอฟันของคุณอย่างสม่ำเสมอ สำหรับการทำความสะอาดช่องปากของคุณ

ผลกระทบจากการใช้ยาและสุขภาพช่องปากของคุณ

หลายคนอาจมียาต่างๆ ที่คุณได้รับจากคุณหมอหรือยาที่คุณได้ซื้อมาด้วยตัวเอง
         หลายคนอาจมียาต่างๆ ที่คุณได้รับจากคุณหมอหรือยาที่คุณได้ซื้อมาด้วยตัวเอง 
ผลข้างเคียงที่พบบ่อยมากในการใช้ยาเกี่ยวกับสุขภาพในช่องปากคือ การปากแห้ง 
ปัญหาปากแห้งเองก็เพิ่มความเสี่ยงที่จะทำให้คุณฟันผุได้ เนื้อเยื่ออ่อนในช่องปากของคุณ รวมถึงเหงือก ซับแก้มและลิ้น สามารถมีผลมาจากการใช้ยาทั้งสิ้น ยกตัวอย่างการใช้ยา เช่น
ผู้ที่มีปัญหาทางด้านการหายใจจะต้องใช้เครื่องพ่นยา หายใจหรือสูดยาเข้าไปทางช่องปากของคุณ สิ่งนี้อาจทำให้เกิดการติดเชื้อ หรือเชื้อราในช่องปากของคุณ
การติดเชื้อนี้จะปรากฏเป็นจุดสีขาวในปากของคุณและอาจทำให้มีอาการเจ็บปวด 
คำแนะนำคือ ควรล้างปากของคุณหลังจากที่ใช้ยาสูดพ่นยา มันจะทำให้คุณปลอดภัยจากการติดเชื้อนี้
 
Medications and Oral Health
 
ยาและสุขภาพช่องปาก
 
การรักษาโรคมะเร็งยังสามารถส่งผลกระทบต่อสุขภาพช่องปากของคุณได้เช่นเดียวกัน
  ถ้าเป็นไปได้ให้ไปหาหมอฟันของคุณก่อนที่จะเริ่มการรักษาโรคมะเร็ง
เขาสามารถบอกได้ว่าปากของคุณมีสุขภาพดีเพื่อทำการรักษาหรือไม่
และคุณเองยังสามารถกำหนดวิธีการรักษา ที่จะช่วยให้คุณรักษาสุขภาพช่องปากของคุณให้ได้ผลที่ดีที่สุด หมอฟันยังช่วยแนะนำได้เกี่ยวกับยาที่ใช้รักษาโรค ที่คุณจะได้ปรึกษาพูดคุย เพราะว่าส่วนมากแล้ว จะมีผลต่อการรักษาทางทันตกรรมของคุณ
สิ่งที่ยกตัวอย่างเหล่านี้เป็นเพียงตัวอย่างของวิธีการใช้ยามีผลต่อสุขภาพช่องปากของคุณ
 มันเป็นสิ่งสำคัญที่หมอฟันของคุณควรรู้เกี่ยวกับยาที่คุณกำลังใช้อยู่ เพื่อสุขภาพปากของคุณ แนะนำให้บอกหมอเกี่ยวกับสุขภาพปากโดยรวม โดยเฉพาะอาการล่าสุด หรือโรคเรื้อรังใดๆ ที่คุณพบเมื่อเร็วๆนี้
เตรียมประวัติด้านสุขภาพองคุณ รวมทั้งผลิตภัณฑ์หรือยา และหมั่นบอกหมอฟันบ่อยๆ หากมีการเปลี่ยนแปลงการใช้ยาสำหรับการรักษา
สุดท้ายเก็บยาของคุณไว้ห่างจากมือเด็ก และเช็คยาที่ไม่จำเป็นหรือยาที่หมดอายุแล้วไว้แยก แล้วบอกถึงความอันตรายจากยาแก่เด็กๆให้ทราบ

อาหารและสุขภาพของช่องปาก

สวัสดีกันอีกครั้งค่ะ วันนี้เรามีการดูแลสุขภาพช่องปากเพื่อให้ทุกท่านที่จะมีสุขภาพปากฟันและเหงือกที่ดีค่ะ ในหัวข้อเรื่อง อาหารและสุขภาพของช่องปาก เรามาดูกันเลยจ้า...........
         สวัสดีกันอีกครั้งค่ะ วันนี้เรามีการดูแลสุขภาพช่องปากเพื่อให้ทุกท่านที่จะมีสุขภาพปากฟันและเหงือกที่ดีค่ะ ในหัวข้อเรื่อง อาหารและสุขภาพของช่องปาก เรามาดูกันเลยจ้า........... 

ร่างกายของเรานั้นเป็นส่วนรวมที่มีซับซ้อนมาก อาหารที่คุณเลือกและบ่อยแค่ไหนที่คุณรับประทานมันเข้าไป 
อาหารเหลานั้นสามารถที่จะส่งผลต่อสุขภาพโดยทั่วไปของคุณ และยังส่งผลต่อสุขภาพของฟันและเหงือกของคุณได้เช่นเดียวกัน
 
 
หากคุณบริโภคอาหารที่มีน้ำตาลที่มากเกินไป หรือเครื่องดื่มผลไม้ที่มีรสชาดหวาน หรือแม้แต่ขนมที่ไม่ได้ให้คุณค่าทางโภชนาการ คุณอาจมีความเสี่ยงที่จะฟันผุได้ ฟันผุนั้นเป็นโรคเดียวในวัยเด็กที่เราพบมากที่สุด เพราะเด็กนั้นชอบที่จะกินขนมขบเคี้ยวและไม่ชอบที่จะแปลงฟัน มีรสชาดที่หวาน ซ้ำไปกว่านั้นคือแทบจะไม่ได้ให้คุณค่าโภชนาการเลย แต่มีข่าวดีอย่างหนึ่งคือ เราสามารถที่จะป้องกันสิ่งเหล่านี้ทั้งหมดได้
 
สุขภาพช่องปาก อาหารและสุขภาพของช่องปาก
 
ฟันผุเกิดขึ้นจากคราบจุลินทรีย์เข้ามายึดติดกับน้ำตาลในปาก ก่อให้เกิดกรดที่จะทำลายฟันของเรา อาหารที่มีน้ำตาลทุกชนิดสามารถที่จะทำให้เกิดฟันผุได้
 
เพื่อการควบคุมปริมาณของน้ำตาลที่คุณกินเข้าไปนั้น ควรอ่านข้อมูลโภชนาการและป้ายชื่อส่วนผสมในอาหารและเครื่องดื่มแล้วให้คุณเลือกตัวเลือกที่มีน้ำตาลน้อยที่สุด
 
แหล่งทั่วไปของน้ำตาลในอาหารรวมกับเครื่องดื่ม ขนม คุกกี้ และขนมอบ แพทย์สามารถให้คำแนะนำสำหรับการรับประทานอาหารที่มีคุณค่าทางโภชนาการนักวิจัยหลายคนเชื่อว่าโรคเกิดได้เร็วขึ้นและอาจรุนแรงมากขึ้นในผู้ที่มีโภชนาการที่ไม่ดีสำหรับการที่จะมีสุขภาพฟันและเหงือกที่ดีนั้น ไม่ไช่เพียงแค่อาหารที่คุณกินเข้าไป แต่ให้คิดก่อนที่จะกินและดื่มเข้าไป ไม่ว่าคุณจะกินอะไรสิ่งเหล่านั้นสามารถที่จะส่งผลกระทบต่อสุขภาพช่องปากของคุณได้
ควรรับประทานอาหารในปริมาณที่เหมาะสมและไม่ควรกินขนมระหว่างมื้ออาหาร
 
มาดูวิธีการป้องกันหรือช่วยลดปัญหาฟันผุจากอาหาร
  • ดื่มน้ำในปริมาณมาก
  • กินอาหารที่หลากหลายและครบห้าหมู่ เช่น ผักผลไม้ ธัญพืชต่างๆ หรือโปรตีนเช่นจำพวกเนื้อไม่ติดมัน สัตว์ปีกหรือปลาชนิดต่างๆ หรือรวมถึงอาหารจำพวกถั่ว
  • เลือกอาหารที่มีไขมันในปริมาณที่ต่ำ
  • จำกัดปริมาณของการกินขนมขบเคี้ยว
  • เพื่อสุขภาพฟันที่ดีอย่างสม่ำเสมออย่าลืมแปรงวันละสองครั้งด้วยยาสีฟันที่ผสมฟลูออไร

ปัญหาเด็กฟันผุที่เกิดจากการดูดขวดนม เรื่องง่ายๆที่คุณแม่ไม่ควรละเลย

เคยสงสัยไหมว่า ทำไมลูกเราฟันผุทั้งๆที่ไม่ได้กินขนมขบเคี้ยวเลย เพียงแค่ใช้ขวดนมสำหรับให้นมลูก แล้วเรามีวิธีแก้อย่างไร วันนี้เรามีบทความดีๆมาเพื่อคุณแม่ทุกท่านจ้า
         เคยสงสัยไหมว่า ทำไมลูกเราฟันผุทั้งๆที่ไม่ได้กินขนมขบเคี้ยวเลย เพียงแค่ใช้ขวดนมสำหรับให้นมลูก แล้วเรามีวิธีแก้อย่างไร วันนี้เรามีบทความดีๆมาเพื่อคุณแม่ทุกท่านจ้า 
แม้ว่าพ่อแม่จะใช้ ขวดนมสำหรับลูกเพียงแค่ชั่วคราว แต่ฟันของลูกคุณมีความสำคัญมาก โดยเฉพาะวัยเด็ก เพราะว่าพวกเขายังอ่อนแอต่อการที่จะเกิดฟันผุ
การเกิดฟันผุในเด็กทารกและในเด็กที่กำลังหัดเดิน มักจะเรียกว่า ฟันผุที่เกิดจากขวดนมหรือฟันผุในปฐมวัย
เด็กจำเป็นที่จะต้องมีความแข็งแรง และสุขภาพของฟันที่จะเคี้ยวอาหารของพวกเขา การพูดหรือแม้แต่รอยยิ้มที่น่ารักของพวกเขา
ฟันซี่แรกของพวกเขายังช่วยสร้างความมั่นใจได้ว่า สุขภาพฟันของพวกเขาเมื่อโตขึ้นเป็นผู้ใหญ่มีการดูแลฟันมาอย่างถูกวิธี
ฉะนั้น มันเป็นสิ่งสำคัญมากที่จะเริ่มต้นตั้งแต่วัยทารกที่จะดูแลช่องปากที่ดี เพื่อที่จะช่วยป้องกันฟันของพวกเขาเมื่อโตขึ้นเป็นผู้ใหญ่
 
สาเหตุของเด็กที่ฟันผุจากการดูดขวดนม
 
ปัญหานี้ส่วนมากเกิดขึ้นในบริเวณฟันด้านบนด้านหน้า จะเห็นชัดมากเมื่อยิ้ม แต่อย่าลืมว่าฟันส่วนที่เหลือก็จะได้รับผลกระทบไปด้วย
จริงๆแล้วมันหลายปัจจัยที่ทำให้เกิดฟันผุ
 
สาเหตุทั่วไปที่พบบ่อยที่สุด คือ การให้เด็กดูดขวดขวดนมที่มีน้ำตาลเป็นเวลานานๆ
ปัญหาฟันผุสามารถเกิดขึ้นได้เมื่อเด็กทารกถูกวางไว้บนที่นอนพร้อมกับขวดนม
ฟันผุเป็นโรคที่สามารถเริ่มต้นด้วยแบคทีเรียถูกส่งผ่านจากแม่ต่อทารก แบคทีเรียเหล่านี้จะถูกส่งผ่านทางน้ำลาย
หรือช้อนสำหรับป้อนข้าวลูกรวมถึงการดูแลจุกนมที่ใช้ต่อปากของเด็ก ส่วนนี้ก็สามารถที่จะผ่านไปยังลูกได้เช่นกัน
และหากทารกไม่ได้รับปริมาณฟลูออไรที่เพียงพอ พวกเขาอาจจะมีความเสี่ยงสูงที่จะเกิดปัญหาฟันผุ
 
ข่าวดีอีกแล้วจ้า... จะบอกว่าปัญหาฟันผุสามารถปกป้องได้
 
การป้องกันปัญหาฟันผุของเด็กที่ดูดขวดนม
 
- พยายามที่จะไม่ควรใช้ของร่วมกันกับทารกหรือเด็กๆ เช่นการรับประทานอาหาร การใช้ช้อนหรือสิ่งอื่นๆ ไม่ควรใช้ร่วมกัน
-หลังจากรับประทานอาหารเสร็จแล้ว ควรเช็ดเหงือกของลูกและทำความสะอาดอุปกรณ์ต่างๆให้สะอาด
-เมื่อเด็กเริ่มมีฟัน ควรแปรงฟันให้พวกเขาด้วยขนาดแปรงที่มีขนาดเล็กๆ เหมาะสมหับขนาดปากของพวกเขา และแปรงเบาๆด้วยน้ำ
หากจะใช้ยาสีฟัน ให้แน่ใจว่าหมอให้ใช้ฟลูออไรก่อนเด็กอายุก่อน 2 ขวบ
-แปรงฟันด้วยยาสีฟันเมื่อเขาอายุ2-6ขวบ ปริมาณเล็กๆเท่าเมล็ดถั่ว
-ดูแลการแปรงฟันของพวกเขาจนกว่าจะสามารถนับเองได้และไม่กลืนยาสีฟันลงไป
-ให้กำหนดที่ดื่มนมมีที่เดียว หลีกเลี่ยงการเติมน้ำตาลหรือเครื่องดื่มให้พวกเขา และทารกควรที่จะดื่มนมให้เสร็จก่อนที่จะเข้านอน
-ส่งเสริมให้ลูกของคุณดื่มน้ำจากแก้วน้ำ อาจจะเป็นวันเกิดครั้งแรกของพวกเขา
-สร้างนิสัยการกินเพื่อสุขภาพ โดยเฉพาะสุขภาพช่องปาก
 
หากยังมีปัญหาเกี่ยวกับฟันผุของลูกๆอยู่ แนะนำให้ไปพบหมอเพื่อปรึกษาเกี่ยวกับการรักษาและการดูแลต่อไป

โรคหัวใจและสุขภาพช่องปาก มีความสัมพันธ์กันหรือไม่

สวัสดีจ้า วันนี้เรานำความรู้ที่หลายท่านอาจจะยังไม่เคยได้ยินมาเกี่ยวกับเรื่องโรคหัวใจและสุขภาพช่องปาก แค่ดูแลเหงือกของคุณ ... ช่วยหัวใจของคุณหรือไม่
         สวัสดีจ้า วันนี้เรานำความรู้ที่หลายท่านอาจจะยังไม่เคยได้ยินมาเกี่ยวกับเรื่องโรคหัวใจและสุขภาพช่องปาก แค่ดูแลเหงือกของคุณ ... ช่วยหัวใจของคุณหรือไม่ 

สมาคมโรคหัวใจอเมริกัน ตีพิมพ์ในเดือนเมษายน 2012 ซึ้งพูดถึงการเชื่อมโยงระหว่างโรคเหงือกและโรคหัวใจ 
สาเหตุ คือ โรคเหงือกสามารถที่จะติดเชื้อภายนอกปากได้  และโรคเหงือกมีแบคทีเรียที่จะเข้าไปในกระแสเลือด โดยจะติดไปกับไขมันที่เข้าไปสู่หลอดเลือดหัวใจ อาการนี้ทำให้เกิดลิ่มเลือดที่ทำให้เกิดหัวใจวายได้ และโรคเหงือกยังเป็นสาเหตุสำคัญของการเสียฟันของคุณไป ส่วนมากจะพบได้ในวัยผู้ใหญ่
 
โรคหัวใจและสุขภาพช่องปาก
สิ่งที่สำคัญที่สุดที่คุณสามารถทำได้เพื่อหลีกเลี่ยงโรคเหงือกและรักษาสุขภาพช่องปากที่ดี (รวมถึงการป้องกันฟันผุ) คือ:
  • แปรงฟันวันละสองครั้งด้วยยาสีฟันฟลูออไรที่ได้รับการยอมรับ
  • ทำความสะอาดช่องฟันทุกวันด้วยไหมขัดฟันทำความสะอาด เพื่อขจัดสิ่งที่ฝังอยู่ในซอกฟัน
  • รับประทานที่พอเหมาะและไม่กินขนมขบเคี้ยวระหว่างมื้ออาหาร
  • ควรไปพบหมอฟันอย่างสม่ำเสมอ สำหรับการทดสอบช่องปากของคุณและการทำความสะอาดอย่างถูกวิธี
 
โรคหัวใจและสุขภาพช่องปาก
 
หากคุณเป็นโรคหัวใจ ต้องมีการรักษาพิเศษสำหรับสุขภาพปากและฟันของคุณ ควรดูแลรักษาปากและฟันที่แข็งแรงด้วยการแปรงฟัน และใช้ไหมขัดฟันทุกวัน รวมทั้งพบทันตแพทย์เป็นประจำ ควรบอกให้ทันตแพทย์ทราบว่าคุณเป็นโรคหัวใจ และปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์อย่างเคร่งครัด ของการใช้ยา เช่น ยาปฏิชีวนะ ตามที่แพทย์สั่ง

มาดู! นิสัยในชีวิตประจำวันที่ทำให้ฟันของคุณเสีย

ไม่ว่าจะเป็นน้ำตาล ไวน์ และหลายๆคนที่ชอบใช้ปากหรือฟันในการเปิดขวดอาจทำร้ายรอยยิ้มสวยๆของคุณได้
         ไม่ว่าจะเป็นน้ำตาล ไวน์ และหลายๆคนที่ชอบใช้ปากหรือฟันในการเปิดขวดอาจทำร้ายรอยยิ้มสวยๆของคุณได้ 

ส่วนมากแล้วเราวางแผนที่จะออกกำลังกาย กินอาหารในแต่ละมื้อหรือเครื่องดื่มต่างๆ โดยไม่ค่อยได้ใส่ใจเกี่ยวกับฟันของคุณมาก
 
แต่คุณอาจจะยังไม่รู้ว่า กิจกรรมต่างๆ อาหารและเครื่องดื่มต่างๆ สามารถทำร้ายสุขภาพช่องปากและฟันของคุณได้ 
และยังมีหลายคนที่ได้สูญเสียฟันไปกับสิ่งเหล่านี้ไปหลายคนต่อหลายคนแล้ว และนี่คือวิธีป้องกันฟันของคุณเอง เรามาดูกันเลย
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
น้ำตาลและฟัน
 
น้ำตาลและฟัน
 
น้ำตาลเป็นศัตรูอันดับหนึ่งของฟันเรา และยิ่งนานเท่าไหร่ที่มันอยู่ในปากของคุณ ก็จะยิ่งส่งผลเสียต่อสุขภาพปากของคุณน้ำตาลเป็นตัวทำให้ผลิตแบคทีเรียที่เป็นกรดในปากของคุณ กรดเหล่านี้จะอยู่ที่เคลือบฟัน
 
ควรหลีกเลี่ยงอาหารประเภทพวกลูกอมเยลลี่ เพราะอาหารพวกนี้จะติดที่ฟันหรือร่องฟันของคุณนานกว่าอาหารจำพวกอื่น และเคลือบด้วยน้ำตาลที่มากับอาหารจำพวกนี้ หรืออาหารจำพวกผลไม้แห้งเช่นลูกเกด ผลไม้ที่ไม่สด แนะนำให้เปลี่ยนเป็นผลไม้ที่สดจะดีกว่า
 
เครื่องดื่มและฟัน
 
น้ำตาลและฟัน
 
โซดาก็เป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้ฟันของคุณเสียได้เช่นเดียวกัน เพราะการดื่มเครื่องดื่มจำพวกสภาพที่เป็นกรด เหมือนคุณกำลังเคลือบฟันของคุณด้วยกรดเช่นเดียวกัน เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ แม้เพียงไวน์สักแก้ว ก็เป็นกรดที่สามารถกัดกร่อนฟันของคุณ นอกจากนี้เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ยังทำให้ปากของคุณแห้งด้วย ลดการผลิตน้ำลาย เพราะน้ำลายช่วยในการกำจัดคราบจุลินทรีย์และแบคทีเรียที่สะสมจากพื้นผิวของฟัน หรืออีกทางหนึ่งสำหรับคนที่อดดื่มไม่ได้ ให้ดื่มน้ำเปล่าสลับกับการดื่มเครื่องดื่มที่เป็นกรด ก็ช่วยลดความเสี่ยงต่อฟันได้เช่นเดียวกัน
 
ความเสี่ยงอื่น ๆต่อฟัน
 
กีฬาทำให้เสียฟันได้
 
  • การเปิดฝาขวดด้วยฟัน หรือการกัดถุงขนมต่างๆ ควรหยุดพฤติกรรมเหล่านี้
  • การสูบบุหรี่ไม่เพียงแต่เป็นผลเสียต่อสุขภาพของฟันของคุณ แต่สารนิโคตินที่มากับบุหรี่นั้นยังสามารถทำให้เกิดมะเร็งในช่องปากได้ด้วย หรือเลวร้ายกว่านั้นคือการเคี้ยวยาสูบเล่นๆ เพราะยาสูบมีสารก่อมะเร็งและสัมผัสกับฟันและเหงือกโดยตรง ซึ้งเป็นเรื่องที่อันตรายมาก
  • หากคุณชอบเล่นกีฬาที่มีการกระทบกัน แนะนำให้ใส่ที่ป้องกันปากหรือฟันที่ปลอดภัยต่อคุณมากที่สุดและสบายต่อปาก เพราะมันจะทำให้คุณไม่ต้องวิตกกังวลเกี่ยวกับฟันของคุณในเวลาการเล่นกีฬา หลายคนประมาทและตอนนี้พวกเขาก็ได้ใช้ฟันปลอมไปเรียบร้อยแล้ว อิอิ ป้องกันดีกว่าแก้จ้ะ.....

การเลือกแปรงสีฟัน เลือกแบบแปรงเองหรือแปรงไฟฟ้าดี?

แปรงสีฟันไฟฟ้าดีกว่าแปรงแบบเก่าที่แสนจะธรรมดาหรือ เราไปให้ผู้เชี่ยวชาญเพื่อหาคำตอบกันดีกว่า..
         แปรงสีฟันไฟฟ้าดีกว่าแปรงแบบเก่าที่แสนจะธรรมดาหรือ เราไปให้ผู้เชี่ยวชาญเพื่อหาคำตอบกันดีกว่า.. 
แปรงสีฟันไฟฟ้าได้เป็นที่นิยมมากในปีที่ผ่านมา - บางคนถึงกับบอกว่ามันให้การดูแลทันตกรรมที่เหนือกว่า แล้วเราจะสามารถเปรียบเทียบกับแปรงแบบเก่าได้อย่างไร?
ผู้เชี่ยวชาญด้านทันตกรรมบอกว่า แปรงสีฟันส่วนมากแล้ว จะสามารถทำความฟันได้ หากคุณรู้กจักวิธีการใช้งานมัน
 
แปรงสีฟันแบบเก่า เป็นวิธีที่สุดแสนจะคลาสสิกสำหรับการดูแลรักษาสุขภาพช่องปากที่ดี
สำหรับแปรงแบบเก่าที่เราใช้กันอยู่ส่วนมากจะเป็นแบบธรรม แต่มันมีประโยชน์หลายอย่าง ยกตัวอย่างเช่น
-ราคาไม่แพงและหาซื้อได้ง่าย
นี่คือแปรงสีฟันแสนจะธรรมดาและทันตแพทย์ส่วนใหญ่แนะนำ เพราะมันทั้งราคาถูกและสะดวกที่จะหาซื้อมันมาใช้ และแปรงสีฟันไฟฟ้าอาจแพงสำหรับหลายๆคน 
ฉะนั้นมันเป็นสิ่งที่สุดยอดมาก หากจะรู้จักการใช้แปรงสีฟันแบบธรรมดาเพื่อทำความสะอาดปากและฟันของคุณ
-ง่ายต่อการพกพาไปไหนต่อไหน หรือเที่ยวที่ต่างๆ
ไม่ว่าจะไปเที่ยวไหนก็นำไปได้ง่าย เบาสะดวกสบาย ไม่ต้องวิตกกังวลเกี่ยวกับมันเลยว่าจะพังหรือเสียอะไร ขึ้นเหนือลงไต้ ใส่ไปได้ทุกที่
-ลดแรงกดดันต่อเหงือกและฟัน
เมื่อเราใช้แปรงแบบธรรมดา มันช่วยเลี่ยงแรงกดดันจากแปรงต่อฟันเราอย่างมาก เพราะเราเป็นคนแปรงด้วยน้ำหนักมือของเราเอง เพราะหากแรงเกินไปอาจทำให้มีอาการปวดฟันและเกิดปัญหาฟันผุได้
-ดีสำหรับเด็ก
มันทำให้เด็กได้เรียนรู้จักการใช้แปรงและช่วยตัวเองในการทำความสะอาดปากและฟันของพวกเขา และมีความปลอดภัยต่อเด็กด้วย
แหล่งข้อมูล
 
ส่วนแปรงสีฟันไฟฟ้า แนะนำในบางกรณี
เช่นสำหรับผู้สูงอายุ โดยเฉพาะผู้ที่มีโรคไขข้อ อาจทำการแปรงฟันแบบธรรมดาไม่ได้ประสิทธิภาพเท่าที่ควร แปรงสีฟันไฟฟ้าอาจทำความสะอาดได้อย่างมีประสิทธิภาพกว่า 
หรือคนที่มีปัญหาเกี่ยวกับไหล่ การเคลื่อนย้ายไหล่ในการแปรงฟันอาจเป็นเรื่องยากและมีปัญหาสำหรับการแปรงฟันของเขา แปรงสีฟันไฟฟ้าอาจเป็นคำตอบสำหรับพวกเขา
 
สุดท้ายแนะนำให้ใช้แปรงสีฟันแบบสุดคลาสสิกธรรมดาแบบที่คนส่วนมากใช้กันอยู่ดีที่สุดจร้าๆ และไม่ว่าจะแปรงสีฟันแบบไหนก็อย่าลืมว่า ควรซื้อใหม่ประมาณ 3 เดือนนะจ้ะ....

5 ขั้นตอนเพื่อรอยยิ้มที่ดีขึ้น

คุณอาจจะแปลกใจว่า รอยยิ้มที่ขาวและกระจ่างใส ทำให้คุณดูอ่อนเยาว์ขึ้นและน่าสนใจมากขึ้นด้วย
         คุณอาจจะแปลกใจว่า รอยยิ้มที่ขาวและกระจ่างใส ทำให้คุณดูอ่อนเยาว์ขึ้นและน่าสนใจมากขึ้นด้วย 
ในความเป็นจริงแล้ว สถาบันการศึกษาทันตกรรมของอเมริกัน บอกว่าร้อยละ 96 ของผู้ตอบแบบสอบถามเชื่อว่า รอยยิ้มทำให้คนสนใจคุณมากขึ้น

แต่ที่ดีกว่านั้นคือ สุขภาพฟันที่ดีนั้นสำคัญกว่าแค่การได้มองเห็นว่าฟันขาว สวย ปากเป็นประตูสู่ร่างกาย นั้นหมายความว่า ฟันและเหงือกของคุณมีผลต่อสุขภาพโดยรวมของคุณทั้งหมด

 
1.แปรงฟันอย่างสม่ำเสมอ
การแปรงฟันนั้นเป็นรากฐานที่สำคัญของสุขอนามัยของฟัน มันเอาเศษอาหารที่เป็นแบคทีเรียที่กินได้กินนั้น และยังทำความสะอาดฟันและทำให้ลมหายใจของคุณสดชื่น ยาสีฟันฟลูออไรยังช่วยเสริมสร้างฟัน แต่คุณต้องแปรงฟันอย่างน้อยสองนาที เพื่อที่จะทำให้มันทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ 
 
2.ไหมขัดฟันเป็นประจำ
กำจัดแบคทีเรียระหว่างฟันของคุณที่แปรงสีฟันเข้าไปไม่ถึง อีกทั้งยังช่วยป้องกันโรคเหงือก ควรขัดด้วยไหมวันละสองครั้ง หากจะขัดเพียงวันละครั้งให้คุณเลือกทำก่อนเข้านอน เพราะเมื่อคุณนอนหลับคุณผลิตน้ำลายน้อยลง ซึ้งช่วงเวลานั้นฟันและเหงือกของคุณมีความเสี่ยงสูงที่จะเกิดอเชื้อแบคทีเรีย และทำให้เสียสุขภาพช่องปากและฟันต่อไป
 
 
3.กินอาหารเพื่อสุขภาพ
เช่นพวกนมหรืออาหารที่อุดมด้วยแคลเซียม อย่างผักคะน้าในอาหารที่คุณรับประทานก็ช่วยได้เหมือนกัน แคลเซียมช่วยบำรุงกระดูกและฟันแข็งแรง และวิตามินซีในผลส้มช่วยเพิ่มสุขภาพเหงือกเลี่ยงอาหารที่เป็นน้ำตาลและติดซอกฟันควรหลีกเลี่ยงอย่างยิ่ง หากคุณจะกินขนมของหวานเหล่านั้น พยายามที่จะแปรงทันทีหลังจากกินเสร็จ และล้างปากให้สะอาด
 
4.ไม่สูบบุหรี่
คนที่สูบบหรี่มากๆประมาณ 4 ครั้งต่อวัน เสี่ยงที่จะเป็นโรคเหงือก และยังจะเพิ่มความเสี่ยงที่จะเป็นมะเร็งทั้งปาก ริมฝีปาก ลิ้น แก้ม และเหงือก และในผลิตภัณฑ์ยาสูบนั้นยังทำให้ลมหายใจของคุณไม่ดีด้วย อีกทั้งการสูบบุหรี่ยังส่งผลต่อคนรอบข้าง คนข้างเคียงที่อยู่รอบตัวคุณ เช่นครอบครั้ว ลูก ภรรยา อื่นๆที่พลอยจะได้รับสารจากบุหรี่ไปด้วย
 
5.พบหมอฟัน
ควรไปหาหมอฟันอย่างน้อยปีละสองครั้งเพื่อทำความสะอาดฟันของคุณ อย่างตรวจฟันอย่างละเอียด และถ้าหากคุณมีแนวโน้มที่จะเป็นโรคเหงือกและฟันผุ ให้ไปหาหมอฟันของคุณทุก ๆ สี่เดือน เพื่อทำการรักษาต่อไปยาทางทันตกรรมควรพิเศษสำหรับหญิงตั้งครรภ์ เพื่อความปลอดภัยของทารกในครรภ์และแม่เองด้วย หากเป็นโรคเบาหวาน มะเร็ง หรือเอดส์ให้บอกหมอและทำการรักษาอย่างถูกวิธีต่อไป เพราะโรคเหล่านี้มีส่วนมากที่จะทำให้มีปัญหาเกี่ยวกับฟันตรวจสุขภาพของคุณเองอย่างสม่ำเสมอ หาความผิดปกติของปากและฟันของคุณ และหากพบไม่ควรปล่อยทิ้งไว้ ควรรีบไปหาหมอฟันเพื่อทำการรักษาต่อไป

เคล็ดลับ สุขอนามัยช่องปากที่ดีประจำวัน

สวัสดีวันนี้มีเคล็ดลับดีๆ เกี่ยวกับช่องปากของคุณ อยากจะบอกว่าช่องปากเราสำคัญมาก หลายคนละเลย ไม่สนใจ พอถึงวันที่เจอปัญหาเกี่ยวกับปากและฟันก็จะคิดได้
ถึงเวลานั้นมันอาจสายไปแล้ว ฉะนั้นอย่าให้สายถึงตอนที่แก้ไขไม่ได้แล้ว แล้วสุขอนามัยช่องปากที่ดีประจำวันคืออะไร มาดูกัน
         สวัสดีวันนี้มีเคล็ดลับดีๆ เกี่ยวกับช่องปากของคุณ อยากจะบอกว่าช่องปากเราสำคัญมาก หลายคนละเลย ไม่สนใจ พอถึงวันที่เจอปัญหาเกี่ยวกับปากและฟันก็จะคิดได้ ถึงเวลานั้นมันอาจสายไปแล้ว ฉะนั้นอย่าให้สายถึงตอนที่แก้ไขไม่ได้แล้ว แล้วสุขอนามัยช่องปากที่ดีประจำวันคืออะไร มาดูกัน 
แบคทีเรียสามารถอาศัยอยู่ในปากของคุณในรูปแบบของแผ่นที่ติดฟันอยู่ และยังก่อให้เกิดโรคเหงือกอักเสบ
เพื่อที่จะให้ปากของคุณสะอาด คุณต้องปฏิบัติตามสุขอนามัยช่องปากเพื่อให้ฟันของคุณมีสุขภาพที่ดีทุกๆวัน
ในแต่ละวันคุณทานอะไรเข้าไปมากมาย ไม่ว่าจะเป็นแกง ข้าว ก๋วยเตี๋ยว ขนม นมเนย ผัก อื่นๆอีกนับไม่ถ้วน แล้วปากเราจะเป็นอย่างไรหากเราไม่ได้ดูแลรักษา
 
แน่นอนที่สุด หากปล่อยทิ้งไว้ไม่ดีแน่นอน ง่ายๆที่คุณก็รู้ คือ การแปรงฟัน ....
เราควรแปรงวันละสองครั้ง เป็นวิธีที่ง่ายที่สุดเพื่อหลีกเลี่ยงการฟันผุและโรคเหงือก แต่ต้องแปรงอย่างถูกต้องด้วยนะคะ
(อ่านต่อได้ที่ ที่นี่)
 
อีกวิธีที่แนะนำหลังการแปรงฟันคือการใช้ไหมขัดฟันเพื่อสุขภาพที่ดีของเหงือก เพราะว่าเวลาแปรงฟันเสร็จ เราอาจรู้สึกว่าสะอาดแล้ว แต่จริงๆ ยังมีเศษที่แปรงเข้าไปไม่ถึงซอกฟัน
นั่นเป็นทางที่ดีของการใช้ไหมเพื่อขัดฟัน ขนัดสิ่งที่ติดอยู่ตามซอกฟัน และเสร็จจากการขัดฟันแล้ว อย่าลืมไปบ้วนปากกันด้วยนะ
 
(แต่ไม่แนะนำให้ใช้น้ำยาบ้วนปาก เพราะว่าล่าสุด)
 ท.ญ.นพมณี วงษ์กิตติไกรวัล ทันตแพทย์กลุ่มงานทันตกรรม โรงพยาบาลราชวิถี กล่าวว่า ประชาชนส่วนใหญ่เข้าใจผิดว่า การใช้น้ำยาบ้วนปากมีไว้เพื่อกำจัดกลิ่นปาก แต่ที่จริงแล้ว เป็นเพียงการกลบกลิ่นปาก ด้วยกลิ่นของน้ำยาในระยะสั้นเท่านั้น จากนั้นไม่นานก็กลับมามีกลิ่นปากเช่นเดิม
 การใช้น้ำยาบ้วนปากติดต่อกันเป็นระยะเวลานาน ๆ จะทำให้ไปทำลายเชื้อแบคทีเรียที่ดี ที่อาศัยอยู่ในปากให้ตายไปด้วย อาจนำมาซึ่งเชื้อราในช่องปาก ทำให้ตุ่มรับรสของลิ้นเพี้ยนไป มีสีเคลือบผิวฟันที่เปลี่ยนแปลง หรือทำให้เกิดหินปูนได้ง่าย
 
แต่ใครที่ใช้อยู่ แนะนำให้เลือกน้ำยาบ้วนปากที่เชื่อถือได้ หรือสามารถนำยี่ห้อของน้ำยาปว้นปากไปปรึกษาหมอฟันที่ใกล้เคียง

วันจันทร์ที่ 3 มิถุนายน พ.ศ. 2556

แผลในช่องปาก ใครกำลังเป็น มาที่นี่เลย อย่าปล่อยไว้

สวัสดีค่ะ ใครที่กำลังเป็นแผลในช่องปาก หรือหาความรู้เพื่อทราบสาเหตุของการเกิดแผลในช่องปากเบื้องต้น เราได้รวบรวมข้อมูลเพื่อให้ท่านได้ทราบถึง สาเหตุปัญหา วิธีการรักษา
         สวัสดีค่ะ ใครที่กำลังเป็นแผลในช่องปาก หรือหาความรู้เพื่อทราบสาเหตุของการเกิดแผลในช่องปากเบื้องต้น เราได้รวบรวมข้อมูลเพื่อให้ท่านได้ทราบถึง สาเหตุปัญหา วิธีการรักษา 
แผลในปาก เชื่อว่าหลายท่านคงเคยจะเป็นกันมาแล้ว หรือใครที่กำลังเป็นอยู่ คงจะทราบถึงความเจ็บปวดกว่ามันจะหายกันแล้วนะคะ (แผลในปากสำหรับเด็กอ่านได้ที่นี่)
แล้วแผลในปากมันเกิดมาจากอะไร
สาเหตุที่คร่าวๆก็จะมีมาจาก 
1. การติดเชื้อ - เชื้อที่พบมักเป็นจำพวกแบคทีเรีย แกรมบวก-Streptpcoccus sanguis
2. การเปลี่ยนแปลงระดับฮอร์โมน เช่นในช่วงมีประจำเดือน
3. ความเครียด
4. การพักผ่อนไม่เพียงพอ
5. การแพ้ยาสีฟัน
6. การขาดสารอาหาร เช่น ธาตุเหล็ก ฯลฯ
7.การกัดลิ้นหรือปากของตัวเอง
8.การแพ้อาหาร  เช่น ช็อคโกแลต วัตถุกันเสียในอาหาร
9.มะเร็งในช่องปาก
10.แผลร้อนใน 
ที่พบบ่อยที่สุดก็น่าจะเป็น แผลที่เกิดจากการระคายเคือง
 
การรักษาแผลในปากโดยทั่วไปคร่าวๆเบื้องต้น 
1.บ้วนปากของคุณให้สะอาด  อาจบ้วนด้วยน้ำเกลืออุ่น แล้วทายาป้ายแผลในปาก อาทิ Kenalog in Oralbase เพื่อลดการอักเสบของแผล
2.แนะนำให้ดื่มน้ำมากๆในแต่ละวัน
3.รับประทานอาหานที่มีวิตามิน บี 12 ธาตุเหล็ก ในกรณีที่ขาดสารอาหาร
4.อาจลองเปลี่ยนยาสีฟันที่ใช้อยู่ หากแผลเกิดจากการแพ้ยาสีฟัน
5.หลีกเลี่ยงการกินของร้อนจัดๆหรืออาหารที่อาจทำให้เกิดการระคายเคือง
6.เปลี่ยนนิสัยการนอนดึกๆ หรือพักผ่อนให้เพียงพอ
7.รับประทานอาหารไม่ต้องรีบ หรือพุดไปด้วยกินไปด้วย อาจทำให้กัดลิ้นหรือปากตัวเองได้
8.จัดการกับความเครียด
 
สุดท้ายอยากจะบอกว่า
เพื่อสุขภาพช่องปากที่ดี สิ่งที่สำคัญที่สุด คือ หากเป็นแผลในปากแล้ว ไม่ว่าเล็กหรือใหญ่ เจ็บหรือไม่ แต่เป็น นานเกิน 2 สัปดาห์ 
ไม่ควรนิ่งนอนใจ ควรไปรับการตรวจแผลกับทันตแพทย์หรือแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ เพื่อรับการวินิจฉัยแผลที่ถูกต้อง นอกจากจะได้รับการรักษาที่เหมาะสมแล้ว 
ท่านจะได้เรียนรู้วิธีป้องกันการเกิดแผลในภายหน้า เพื่อป้องกันการลุกลามของโรคทางระบบ รวมทั้งโรคมะเร็งในช่องปากได้อย่างทันท่วงที 

ปากเหม็นอยู่ไช่ไหม มาดูนี่ !! สิ่งที่ทำให้เกิดกลิ่นปาก

ปากเหม็นมันเกิดขึ้นกับเราทุกคนไม่ว่าจะครั้งหนึ่งหรือบ่อยครั้ง มีวิธีอะไรไหมที่สามารถทำให้ลมหายใจของเราสดชื่นและไม่ปากเหม็นบ้าง
         ปากเหม็นมันเกิดขึ้นกับเราทุกคนไม่ว่าจะครั้งหนึ่งหรือบ่อยครั้ง มีวิธีอะไรไหมที่สามารถทำให้ลมหายใจของเราสดชื่นและไม่ปากเหม็นบ้าง 

จริงๆแล้ว ลมหายใจหรือกิล่นปากที่ไม่พึงประสงค์นี้เกิดมาจากหลายสาเหตุด้วยกัน แต่ส่วนมากแล้วเกิดมาจากข้างในช่องปาก เช่นเศษอาหารที่เราทานเข้าไปติดอยู่ตามซอกฟันและสะสมอยู่ในปากเรา อยู่บริเวณลิ้น รอบฟัน เมื่อพูดออกมาหลายๆคนที่อยู่ข้างๆแทบสลบไปตามๆไป อิอิ
 
หรือไม่ก็อาจเกิดจากธรรมชาติคือแบคทีเรียที่อยู่ในปากของคุณจัดการกับเศษอาหารเหล่านั้นแล้วปล่อยสารที่มีกลิ่นออกมา คนที่มีอาการปากแห้งมีความเสี่ยงเพิ่มขึ้นของกลิ่นปาก  ยาบางอย่างหรือการสูบบุหรี่ล้วนแล้วแต่มีส่วนร่วมให้แห้งปากได้ การติดเชื้อในช่องปาก โรคเหงือก ทั้งหมดนี้อาจจะทำให้เกิดกลิ่นปากได้เช่นเดียวกัน
 
วิธีการที่ดีที่สุดในการต่อสู้กับลมหายใจที่ไม่ดีหรือปัญหาสุขภาพช่องปากคือ การดูแลปากของคุณ
1.แปรงฟันวันละสองครั้งติดต่อกันเป็นประจำ และแปรงอย่างถูกวิธี
2.การทำความสะอาดฟันของคุณระหว่างวัน วันละครั้งด้วยไหมความสะอาด
3.แปรงลิ้นของคุณก็จะกำจัดเชื้อแบคทีเรียที่ทำให้เกิดการกลิ่นปากได้
4.ดื่มน้ำมากๆในแต่ละวัน
 
สูตรจากธรรชาติเพื่อจำกัดกลิ่นปาก
-น้ำคั้นจากขิงสด 1 ช้อนชา 
-น้ำมะนาว 1 ช้อนชา 
-น้ำอุ่น 1 แก้ว 
 ผสมให้เข้ากัน กลั้วปากวันละครั้ง หลังแปรงฟันในตอนเช้า 
หรือง่ายๆคือ ใบฝรั่ง เลือกใบสด 2-3 ใบ เคี้ยวและคายทิ้งหลังมื้ออาหารหรือเมื่อเริ่มรู้สึกว่ามีกลิ่นปาก
 
แล้วใครอยากทำแบบเครื่องดื่มนะจ้ะ
การเตรียมส่วนผสมของเครื่องดื่ม ควรเตรียมให้ได้สัดส่วนดังต่อไปนี้...
-แตงโมเหลือง 2 ถ้วย
-สับปะรด 1 ถ้วย
-แอปเปิ้ลเขียว 2 ถ้วย
-น้ำแข็งป่น 1 ถ้วย
ขั้นตอนการทำเครื่องดื่มแก้วนี้ เริ่มจากนำสับปะรดที่ปอกเปลือกแล้วมาหั่นเป็นชิ้นสี่เหลี่ยมลูกเต๋าขนาดเล็ก 
จากนั้นนำแตงโมเหลืองหั่นเป็นชิ้น ๆ พอหยาบโดยไม่ต้องเอาเมล็ดออก ส่วนแอปเปิ้ลเขียวให้หั่นเป็นชิ้นสี่เหลี่ยมลูกเต๋าโดยไม่ต้องเอาแกนออก
 จากนั้นนำส่วนผสมทั้งหมดมาสกัดพร้อมกันด้วยเครื่องสกัดน้ำผัก-ผลไม้ เติมน้ำแข็งป่นเพิ่มความเย็นสดชื่น ดื่มได้ทันที
 

แปรงสีฟันสามารถทำให้คุณป่วย? ความจริงที่น่ากลัวเกี่ยวกับแปรงสีฟัน

คุณรู้ไหมว่ามีอะไรซุ่มซ่อนอยู่ในแปรงสีฟันของคุณ วันนี้ 108health.com มีสาระดีๆ ที่ไม่ควรนิ่งนอนใจกับเรื่องแปรงสีฟันที่หลายๆคนไม่ได้ใส่ใจ
         คุณรู้ไหมว่ามีอะไรซุ่มซ่อนอยู่ในแปรงสีฟันของคุณ วันนี้ 108health.com มีสาระดีๆ ที่ไม่ควรนิ่งนอนใจกับเรื่องแปรงสีฟันที่หลายๆคนไม่ได้ใส่ใจ 

นักวิจัยที่อังกฤษมหาวิทยาลัยแมนเชสเตอร์กล่าวว่า แปรงสีฟันของคุณเต็มไปด้วยเชื้อโรค
พวกเขาได้พบว่า แปรงสีฟันสามารถซ่อนไปด้วยแบคทีเรีย มากกว่า 100 ล้านแบคทีเรีย แบคทีเรียที่สามารถทำให้เกิดอาการท้องร่วง
และแบคทีเรีย ("Staph")ที่ก่อให้เกิดการติดเชื้อที่ผิวหนัง
 
เวลาคุณต้องแปรงฟันทุกครั้ง เหมือนกับคุณใส่เชื้อแบคทีเรียบนแปรงสีฟันของคุณเวลาที่คุณแปรงฟัน
 
เคล็ดลับการจัดเก็บแปรงสีฟัน
 
แล้วมันทำให้เราป่วยได้หรือไม่??
 
อาจจะไม่ โดยไม่ต้องคำนึงถึงแบคทีเรียอาศัยอยู่ในปากของคุณ เพราะร่างกายของคุณเองป้องกันได้ตามธรรมชาติ
เพราะเราไม่น่าจะติดเชื้อเพียงแค่การแปรงสีฟัน โชคดีที่ร่างกายมนุษย์สามารถป้องกันตัวเองจากเชื้อแบคทีเรียได้
ดังนั้นเราจึงไม่ต้องวิตกกังวัลเกี่ยวการแปรงฟันที่ทำให้เราไม่สบาย
แต่ถึงจะทราบแบบนั้นแล้ว แต่เราก็ไม่ควรประมาท เราควรเก็บแปรงสีฟันเราไว้ที่เก็บอย่างดี
ห้องน้ำส่วนมากแล้วจะมีขนาดเล็ก และหลายบ้านห้องน้ำจะอยู่ใกล้ห้องอาบน้ำหรืออ่างแปรงฟันของคุณ และมันใกล้กับที่เก็บแปรงสีฟันของคุณ
เวลาที่คุณใช้ชักโครกมันสามารถทำให้เกิดแบคทีเรียในอากาศได้ และนั่นเป็นเหตุที่ทำให้เราต้องเก็บแปรงสีฟันของเราไว้ไกลจากห้องน้ำมากที่สุด
และไม่ควรทานอะไรหากเรายังไม่ได้ล้างมือหลังเข้าห้องน้ำ และทำเช่นเดียวกันก่อนที่คุณจะแปรงฟัน ควรล้างแปรงสีฟันของคุณทุกครั้ง
 
เคล็ดลับการจัดเก็บแปรงสีฟัน
 
1.การล้างแปรง ให้คุณล้างแปรงสีฟันของคุณทุกครั้งทั้งก่อนและหลังการใช้งาน
2.ทำให้แปรงสีฟันแห้ง แบคทีเรียชอบสภาวะสิ่งแวดล้อมที่ชื้น ควรทำให้แปรงแห้งหลังจากการแปรงฟัน และไม่ควรเก็บแปรงไว้ในที่ครอบแปรงสีฟัน เพราะจะทำให้แบคทีเรียเจริญเติบโตได้เร็วยิ่งขึ้น
3.เก็บแปรงไว้ให้แนวตรง  เก็บแปรงสีฟันของคุณให้ตรงในช่องใส่แปรงสีฟัน มากกว่าให้มันลงในส่วนของหัวแปรง
4.เก็บไว้กับตัวของคุณเอง ไม่ว่าคุณอยู่ใกล้กับน้องสาว พี่ชาย หรือเพื่อนร่วมห้อง ห้ามใช้แปรงสีฟันร่วมหันอย่างเด็ดขาด
 อย่าแม้แต่จะเก็บแปรงสีฟันของคุณไว้ในถ้วยเดียวกันกับแปรงของคนอื่น เมื่อใดก็ตามที่แปรงสีฟันสัมผัสกัน จะสามารถแลกเปลี่ยนเชื้อโรคได้
 
ส่วนมากแล้วเราไม่ค่อยได้ใส่ใจเรื่องเล็กๆน้อยๆ เหล่านี้สักเท่าไหร่ สำหรับใครที่ยังมีการเก็บแปรงสีฟันที่ไม่ถูกต้อง ควรเริ่มทำให้ถูกวิธีกันนะคะ

อาการปากแห้งกับสุขภาพช่องปาก

สวัสดดีค่ะ วันนี้เรามาทำความรู้จักเกี่ยวกับปากแห้งกัน แล้วอาการปากแห้งนี่มันเกี่ยวกับสุขภาพช่องปากอย่างไร หลายคนคงคิดว่า แค่ปากแห้งจะอะไรกันนักกันหนา อิอิ
         สวัสดดีค่ะ วันนี้เรามาทำความรู้จักเกี่ยวกับปากแห้งกัน แล้วอาการปากแห้งนี่มันเกี่ยวกับสุขภาพช่องปากอย่างไร หลายคนคงคิดว่า แค่ปากแห้งจะอะไรกันนักกันหนา อิอิ 

จริงๆแล้วแค่การปากแห้งที่ส่งผลต่อสุขภาพของเราเยอะมากๆ อีกทั้งยังบอกถึงผลที่เกิดจากการปากแห้งอีกด้วย
ในแต่ละวันคนเราต้องการน้ำลายเพื่อทำความสะอาดช่องปากและก็ใช้ในการย่อยอาหารที่เราได้กินเข้าไปนั้น
น้ำลายของเรานั้นยังช่วยเรื่องการติดเชื้อแบคทีเรียและเชื้อราในช่องปากของเราอีกด้วย เริ่มจะเห็นประโยชน์ของน้ำลายกันแล้วไช่ไหมละ
และเมื่อเราไม่ได้ผลิตน้ำลายที่เพียงพอก็จะทำให้ปากเราแห้งได้และรู้สึกไม่สบายตัว
โชคดีสำหรับเราที่มีการรักษาอาการปากแห้งอย่างมากมายและหลายวิธีด้วยกัน เพื่อให้เราที่จะมีสุขภาพที่ดีของช่องปาก
เรามาทราบสาเหตุของการปากแห้งกัน สาเหตุของการปากแห้งมีหลายปัจจัยด้วยกัน
-ผลข้างเคียงจากการใช้ยา
ปากแห้งเป็นผลข้างเคียงจากการใช้ยาที่พบบ่อยที่สุด รวมถึงยาเสพติดที่ใช้ในการรักษาภาวะซึมเศร้าความวิตกกังวล
และยาที่รักษาอาการเจ็บปวด โรคภูมิแพ้และโรคหวัด
โรคอ้วน ความดันโลหิตสูง โรคลมบ้าหมู ท้องเสีย คลื่นใส่อาเจียน ความผิดปกติทางจิต มักมากในกาม 
ยาขยายหลอดลมบางอย่าง ปากแห้งยังสามารถเป็นผลข้างเคียงจากยาผ่อนคลายกล้ามเนื้อและยาระงับประสาท
-ผลข้างเคียงของโรคบางชนิดและการติดเชื้อ
ปากแห้งได้ผลข้างเคียงจากทางการแพทย์รวมถึงโรคเอดส์ โรคอัลไซเมอร์ เบาหวาน โรคโลหิตจาง 
โรคปอดเรื้อรัง โรคไขข้ออักเสบ คางทูม
-ผลข้างเคียงของการรักษาทางการแพทย์
การรักษาที่ทำความเสียหายให้กับต่อมน้ำลาย เช่นการฉายรังสีบริเวณศีรษะและลำคอและการรักษาด้วยยาเคมีบำบัด
สำหรับโรคมะเร็ง สิ่งเหล่านี้สามารถลดการผลิตน้ำลายได้
-วิถีการดำเนินชีวิต
เช่นการสูบหรี่สามารถส่งผลต่อการผลิตน้ำลายและยังทำให้อาการปากแห้งรุนแรงขึ้นอย่างต่อเนื่อง และยังส่งผลต่อการหายใจ
สิ่งนี้เป็นการทำร้ายตัวเองและยังนำไปสู่ปัญหาต่างๆอีกมากมาย
อาการของปากแก้งอื่นๆ
-มีความรู้สึกแห้งในปาก
-กระหายน้ำบ่อย
-มีแผลในปาก รืมฝีปากแตก
-มีความรู้สีกแห้งอยู่ในลำคอ
-มีความยากลำบากในการพูดหรือการเคี้ยวหรือรับประทานอาหาร
-มีอาการเสียงแหบ เจ็บคอ
-ลมหายใจไม่คอ่ยดี
แล้วอาการปากแห้งส่งผลต่อสุขภาพช่องปากเราอย่างไรบ้าง
นอกจากสาเหตุและผลที่ตามมาข้างต้นแล้ว อาการปากแห้งยังส่งผลเพิ่มความเสี่ยงของโรคเหงือกอักเสบ
ฟันผุและการติดเชื้อในช่องปาก และปากแห้งนั้นยังทำให้การใส่ฟันปลอมนั้นยากขึ้น
หลายคนกำลังหาสิ่งนี้อยู่แน่ๆ
แล้วอาการปากแห้งสามารถรักษาได้อย่างไร
หากคุณคิดว่าอาการปากแห้งของคุณเกิดจากยาบางอย่างของคุณให้คุณไปพบแพทย์ของคุณเพื่อทำการพูดคุยหาทางแก้ไขต่อไป
แพทย์อาจปรับขนาดยาและเปลี่ยนยาเพื่อลดหรือไม่ให้เกิดอาการปากแห้ง และทำให้ปากคุณไม่แห้งและมีความชื้นอีกครั้ง
ส่วนต่อไปนี้เป็นวิธีการดูแลของตัวคุณเอง
-อมลูกอมหรือเคี้ยวหมากฝรั่งที่ปราศจากน้ำตาล
-แน่นอน ดื่มน้ำมากๆ เพื่อให้ความชุ่มชืนต่อปาก
-แปรงฟันของคุณเพื่อความสะอาดของช่องปาก
-หาวิธีการปรับห้องที่คุณอยู่ไม่ให้อากาศแห้งเกินไป โดยเฉพาะห้องแอร์
-ไม่ควรเลียริมฝีปากของตัวเองเมื่อมีอาการปากแห้ง หลายคนชอบทำมาก เมื่อฤดูหนาวมาถึง เพราะมันจะยิ่งทำให้ปากของคุณแตก
จะถึงฤดูหนาวแล้ว หลายๆคนคงบ่นเกี่ยวกับอาการปากแห้ง ผิวแห้ง ในช่วงฤดูหนาวกันอย่างมากมาย
การเลือกผลิตภัณท์ที่นำมาใช้กับร่างกายของเรา ก็เลือกกันดีๆนะคะ

ความเครียดมีผลต่อสุขภาพช่องปากของคุณหรือไม่ อย่างไร

หลายคนอาจทราบแล้วว่า ความเครียดทำให้เราปวดหัวหรือปวดท้องได้
         หลายคนอาจทราบแล้วว่า ความเครียดทำให้เราปวดหัวหรือปวดท้องได้ 
แต่ท่านรู้หรือไม่ว่า ความเครียดมากๆ มีผลต่อการทำงานของปากและฟันของคุณได้ 
และยังรวมถึงสุขภาพโดยรวมของคุณด้วย และยิ่งไปกว่านั้น ผลกระทบที่เกิดขึ้นจากความเครียดหรือความวิตกกังวลไม่เพียงแต่มีผลต่อสุขภาพปากแล้ว ยังส่งผลรวมไปถึง
- การเป็นแผลในปาก
- การนอนกัดฟัน
- มีสุขภาพช่องปากที่แย่และฟันไม่แข็งแรง
- ส่งผลทำให้เป็นโรคเหงือกที่เป็นอยู่เลวร้ายลงกว่าเดิม
 
แล้วเราจะสามารถป้องกันจากปัญหาสุขภาพเหล่านี้ได้อย่างไร???
 
แผลในปาก
จริงๆแล้วการเป็แผลในปากหลายท่านอาจยังไม่ทราบสาเหตุที่แท้จริงว่ามันเกิดจากอะไร
ความเครียดและความเมื่อยล้าหรืออาการแพ้ยังสามารถเพิ่มความเสี่ยงต่อแผล ทำให้หายช้ากว่าเดิมได้
ส่วนมากแล้วแผลในปากจะหายภายใน 10 วัน เพื่อบรรเทาอาการระคายเคือง ให้ลองหาซื้อยาเพื่อลดการระคายเคือง
ไม่กินอาหารที่มีความเผ็ด ร้อน หรืออาหารที่มีกรดสูง เช่นพวกมะเขือเทศ หรือผลไม้จำพวกมะนาว
ท่านสามารถอ่านบทความเกี่ยวกับแผลในปากได้ที่นี่
 
กัดฟัน
ความเครียดอาจทำให้คุณกัดฟันของคุณในระหว่างฟันหรือเวลานอนตอนกลางคืนโดยที่คุณมักไม่รู้ตัว
 ส่วนมากแล้วจะเป็นเวลานอนกลางคืน และรู้จักกันคือ การนอนกัดฟันนั่นเอง
หากคุณกำลังมีปัญหานอนกัดฟัน อาจทำให้อาการเครียดของคุณเลวร้ายลงกว่าเดิม และยังอาจส่งผลต่ออีกด้วย
 
ขากรรไกร
 
 
 
หากเป็นนานๆหรือรู้สึกเครียดมากๆ แนะนำให้ไปพบแพทย์เพื่อการดูแลต่อไป 
แล้วเราจะจัดการกับความเครียดได้อย่างไร เราแนะนำให้
 
- เลี้ยงสุนัขในที่ทำงานลดเครียดได้
- 10 อาหารคลายเครียด
- "วิธีสร้างความสุข" อย่างง่ายๆ ในชีวิตให้ตัวเอง
- 5 อาหารที่ทำให้อารมณ์ดี
- หัวเราะเข้าไว้...หัวใจแข็งแรง
- วิธีจัดการกับความเครียด
- 7 ขั้นตอน "ทำงาน" ไม่เครียด

สุขภาพในช่องปากกับการจัดฟัน

ในปัจจุบันเป็นเรื่องที่ดีที่ผู้ปกครองให้ความสนใจในเรื่องฟันของเด็กๆ มากยิ่งขึ้น การจัดฟันก็เป็นอีกหนึ่งเรื่องที่ผู้ปกครองควรให้ความสนใจ เพราะในอนาคตหากฟันไม่เป็นระเบียบจะส่งผลเสียกับเด็กๆ ได้ง่ายค่ะ
         ในปัจจุบันเป็นเรื่องที่ดีที่ผู้ปกครองให้ความสนใจในเรื่องฟันของเด็กๆ มากยิ่งขึ้น การจัดฟันก็เป็นอีกหนึ่งเรื่องที่ผู้ปกครองควรให้ความสนใจ เพราะในอนาคตหากฟันไม่เป็นระเบียบจะส่งผลเสียกับเด็กๆ ได้ง่ายค่ะ 
 
สุขภาพในช่องปากกับการจัดฟัน

สุขภาพในช่องปากกับการจัดฟัน

การจัดฟัน ในยุคปัจจุบันถือว่าเป็นเรื่องที่ดีที่มีหลากหลายรูปแบบให้เด็กๆ ได้เลือกที่จะดูแลตัวเอง ซึ่งไม่ว่าเด็กๆ จะเลือกวิธีการจัดฟันแบบไหน ก็ควรปรึกษาทันตแพทย์


ฟันเก ต้องจัดให้เป็นระเบียบหรือไม่
การจัดฟัน เป็นการแก้ไขการเรียงตัวของฟัน ที่ขึ้นไม่เป็นระเบียบ ให้กลับเข้าสู่ตำแหน่งที่ควรจะเป็น เพื่อให้การสบระหว่างฟันบน และฟันล่สง มีความสัมพันธ์ที่ถูกต้อง ซึ่งจะเป็นผลดีต่อการบดเคี้ยวอาหารสุขภาพของฟันรวมทั้งเนื้อเยื่อรอบๆ ฟันด้วย นอกจากนี้ ยังช่วยปรับให้รูปลักษณะของใบหน้า และการยิ้ม แลดูดีขึ้น การที่จะตัดสินใจว่า ควรจะจัดฟันหรือไม่ ขึ้นอยู่กับการจัดสินใจชองผู้เป็นเจ้าของเป็นสำคัญถ้าฟันเก (ไม่ใช่เกเร) ไม่มากนัก ประกอบกับไม่มีความวิตกกังวล กับลักษณะที่ปรากฏของใบหน้า ก็ไม่จำเป็นต้องแก้ไขด้วยการจัดฟัน แต่ควรเอาใจใส่ ดูแลความสะอาดในบริเวณนั้นเป็นพิเศษ เพื่อป้องกันการเกิดโรคฟันผุ

จัดฟัน เมื่ออายุเท่าไร จึงจะดี
การจัดฟัน สามารถทำได้ทั้งวัยเด็ก และวัยผู้ใหญ่ แต่การจัดฟันในวัยเด็กจะประสบความสำเร็จได้ง่ายกว่า ช่วงอายุที่เหมาะสม คือ อายุประมาณ 10-14 ปี เนื่องจากเป็รช่วงที่ส่วนต่างๆ ของโครงสร้างของใบหน้ากำลังเปลี่ยนแปลงจากวัยเด็ก ไปสู่วัยผู้ใหญ่ ความสัมพันธ์ของกระดูกขากรรไกรล่าง และบน ก็จะถูกกำหนดขึ้นในระยะนี้ ซึ่งหลังจากนี้แล้ว จะไม่มีการเปลี่ยนแปลงอีกต่อไป การจัดฟันในช่วงที่ร่างกายกำลังมีการเจริญเติบโตมากๆ จะมีส่วนช่วยในการเคลื่อนที่ของฟัน ให้เกิดขึ้นได้ง่าย และรวดเร็ว หากมีการจัดฟันในช่วงเกินอายุ 14 ปี ไปแล้ว ก็จะเคลื่อนฟันได้ยากขึ้น และได้ผลช้าลง

จัดฟัน ทำไมจึงใช้เวลานาน
ระยะเวลาที่ใช้ในการจัดฟันนั้นจะแตกต่างกันไป ทั้งนี้ขึ้นกับองค์ประกอบหลายอย่าง คือ ลักษณะการซ้อนเกของฟัน และเนื้อที่ในขากรรไกรว่า มากน้อยเพียงใด ชนิดของเครื่องมือที่ใช้ หากเป็นเครื่องมือชนิดติดแน่น
ก็จะใช้เวลาน้อยกว่า ใช้เครื่องมือชนิดถอดได้ และยังขึ้นอยู่กับอายุที่เริ่มจัดฟัน หากเป็นผู้ใหญ่จะใช้เวลามากกว่าในวัยเด็ก นอกจากนี้ หลังจากการจัดเรียงฟันให่อยู่ในตำแหน่งที่ถูกต้องแล้ว ยังต้องใส่เครื่องมือบังคับฟันต่อไปอีกระยะเวลาหนึ่ง เพื่อบังคับฟันไว้ในตำแหน่งที่ต้องการ โดยรอให้อวัยวะที่รองรับฟัน คือ กระดูก เหงือก และกล้ามเนื้อ ปรับตัวเข้ากับตำแหน่งใหม่ของฟัน เพื่อช่วยป้องกันการคืนกลับตำแหน่งเดิมของฟัน
การจัดจัดฟันจึงต้องใช้เวลนาน เฉลี่ยประมาณ 1-3 ปี จึงแล้วเสร็จ การจัดฟันให้ได้ผลดีนั้น ความร่วมมือของคนไข้เป็นสิ่งที่สำคัญมาก


ถ้าจะจัดฟัน ต้องถอนฟันไหม
การจัดฟัน ไม่จำเป็นต้องถอนฟันในทุกกรณี ทั้งนี้ขึ้นกับว่า ฟันซ้อนเกมากน้อยเพียงใด ขากรรไกร ซึ่งเป็นที่อยู่ของฟัน มีเนื้อที่พอสำหรับการจัดเรียงฟันให้เป็นระเบียบได้หรือไม่ หากมีฟันซ้อนเกมาก ประกอบกับขากรรไกรมีเนื้อที่ไม่พอ ก็จำเป็นต้องถอนฟันออก ซึ่งโดยทั่วไป ก็จะพิจารณาถอนฟันกรามน้อยซี่ที่หนึ่ง ด้านละ 1 ซี่ เนื่องจากเป็นฟันที่อยู่กึ่งกลาง ความโค้งของขากรรไกร ซึ่งจะอยู่ไม่ไกลจากการซ้อนเกของฟันด้านหน้า และฟันด้านหลัง ทำให้สามารถเคลื่อนฟันเข้ามาปิดช่องว่าง ได้ดีกว่าการถอนฟันซี่อื่น และฟันกรามน้อยซี่ที่สองก็สามารถทำหน้าที่แทนฟันกรามน้อยซี่ที่หนึ่งได้

ทำความสะอาดฟันอย่างไร เมื่อจัดฟัน
การใส่เครื่องมือจัดฟัน ต้องเพิ่มการดูแลรักษาความสะอาดช่องปากให้มากยิ่งขึ้น เพราะในปากจะมีส่วนของเครื่องมือ หรือลวดที่จะเป็นที่กัดของเศษอาหาร มีผลให้เกิดโรคฟันผุได้ง่าย ถ้าทำความสะอาดฟันได้ไม่ดีพอ
หากใส่เครื่องมือจัดฟันชนิดถอดได้ ก็ควรถอดเครื่องมือทั้งชิ้นออกมาแปรง ให้สะอาดทุกครั้งหลังจากการรับประทานอาหาร พร้อมทั้งแปรงฟันด้วย ในกรณีที่ใส่เครื่องมือชนิดติดแน่น ก็ควรแปรงฟันหลังอาหารทุกครั้ง
เช่นกัน ซึ่งอาจจะเลือกใช้แปรงสีฟันชนิดพิเศษ ที่ออกแบบให้มีร่องอยู่กึ่งกลาง ตามความยาวของหัวแปรง ช่วยให้แปรงฟันที่มีเครื่องมือจัดฟันติดอยู่ได้สะดวกยิ่งขึ้น ในขณะที่อาบน้ำ อาจใช้น้ำฝักบัว ช่วยพ่นน้ำใส่บริเวณ
ที่จัดฟัน เพื่อช่วยชะล้างฟัน ในขณะอาบน้ำร่วมด้วยก็ยิ่งดี การใส่เครื่องมือจัดฟันส่วนใหฯ่ จะใช้ระยะเวลานาน จึงต้องดูแลความสะอาดช่องปากอย่างเคร่งครัด เพื่อป้องกันฟันไม่ให้ผุ

สุขภาพในช่องปาก กับน้ำยาบ้วนปาก

น้ำยาบ้วนปาก การสร้างความมั่นใจหลังการแปรงฟังคือการใช้น้ำยาบ้วนปากที่มีสรรพคุณที่ช่วยให้ลมหายใจของคุณสดชื่นมากยิ่งขึ้น ซึ่งจริงแล้วนั้นน้ำยาบ้วนปาก เป็นเพียงส่วนประกอบเล็กๆ เท่านั้นที่จะทำให้ฟันของคุณแข็งแรง
         น้ำยาบ้วนปาก การสร้างความมั่นใจหลังการแปรงฟังคือการใช้น้ำยาบ้วนปากที่มีสรรพคุณที่ช่วยให้ลมหายใจของคุณสดชื่นมากยิ่งขึ้น ซึ่งจริงแล้วนั้นน้ำยาบ้วนปาก เป็นเพียงส่วนประกอบเล็กๆ เท่านั้นที่จะทำให้ฟันของคุณแข็งแรง 
 
สุขภาพในช่องปาก กับน้ำยาบ้วนปาก

สุขภาพในช่องปาก กับน้ำยาบ้วนปาก

การใช้น้ำยาบ้วนปากหลังการแปรงฟัน เพื่อให้ตัวเองเกิดความมั่นใจมากยิ่งขึ้นนั้น เป็นเรื่องที่คุณเข้าใจว่าน้ำยาบ้วนปากนอกจากจะให้กลิ่นปากที่สดชื่นแล้ว..

ฟันของคุณก็จะแข็งแรงไปด้วย ลองมาทำความรู้จักของน้ำยาบ้วนปาก และสรรคุณของน้ำบ้วนปากกันดีกว่าค่ะ

น้ำยาบ้วนปากนั้นแม้จะสามารถฆ่าเชื้อโรคและกลิ่นหอม เพิ่มความสดชื่นนั้น แต่ก็สามารถระงับเชื้อในช่องปากซึ่งเป็นสาเหตุของกลิ่นปากได้ชั่วคราวเท่านั้น เนื่องจากยาฆ่าเชื้อที่ผสมลงไปในน้ำยาบ้วนปากมีฤทธิ์อ่อนๆ และเชื้อในช่องปากยังมีหลายชนิด ส่วนใครที่คิดจะใช้น้ำยาบ้วนปากที่มีสารฆ่าเชื้อเข้มข้นขอแนะนำว่าอย่าทำเด็ดขาด เพราะนอกจากจะทำให้แสบร้อนช่องปากแล้ว สภาวะในปากจะถูกทำลายสมดุล อาจจะเกิดความผิดปกติของเนื้อเยื้อในช่องปากได้ง่ายเลยทีเดียว

สำหรับน้ำยาบวนปากที่มีส่วนผสมของฟลูออไรท์ที่ช่วยป้องกันฟันผุนั้น แม้จะมีรายงานว่าช่วยป้องกันฟันผุได้แต่ก็ไม่ให้ผลดีเท่าการแปรงฟันที่ช่วยขจัดคราบสกปรกสาเหตุของฟันผุรวมถึงในยาสีฟันยังมีฟลูออไรท์ใน
ปริมาณที่เหมาะสมอีกด้วย หากคุณบ้วนปากบ่อย ๆ เพื่อหวังจะให้ฟลูออไรท์ช่วยป้องกันฟันผุมากยิ่งขึ้นอาจจะส่งผลเสีย คือทำให้ฟันตกกระได้

และเมื่อคุณมีสิ่งผิดปกติเกี่ยวกับฟันแล้วล่ะก็ คุณควรรีบไปหาหมอฟันโดยทันที เพื่อสุขภาพช่องปากที่ดีของคุณค่ะ