Social Icons

วันอังคารที่ 11 มิถุนายน พ.ศ. 2556

เทคนิคอร่อยแบบไม่ต้องอด



เทคนิคอร่อยแบบไม่ต้องอด

เทคนิคอร่อยแบบไม่ต้องอด ด้วยการ “ลดขนาด”
อาหารยุคใหม่ ทำร้ายด้วย “ขนาด” ไม่ต้องทนอดแต่ใช้เทคนิค “ลดไซส์” เพื่อยืดชีวิต 

กาแฟแก้วยักษ์

ข้าวโพดคั่วถังใหญ่

แฮมเบอร์เกอร์ซุปเปอร์ไซส์

ฯลฯ

อาหารการกินยุคใหม่มีขนาดที่น่าตื่นตาตื่นใจมากครับ บางอย่างเป็นขนาดที่น่าสะพรึงทีเดียว อย่างพิซซ่าถาดยักษ์หรือข้าวโพดคั่วที่อยู่ในภาชนะขนาด “กาละมัง”

กลั้วคอด้วยน้ำอัดลมขวดลิตร

เอื๊อก…

ปัญหาเรื่องโรคอ้วนที่บ้านเรากำลังรณรงค์กันอยู่ส่วนหนึ่งจะจัดการได้ก็ด้วยการ “คุมขนาด” ครับ ผมทำรายการเกี่ยวกับปัญหาโรคอ้วนโดยเฉพาะร่วมกับกองถ่ายของไทยพีบีเอสมาช้านาน พวกเรารู้กันดีว่าปัญหาอ้วนในเด็กและผู้ใหญ่ไทยมาจาก “น้ำหวาน” ส่วนหนึ่ง

อีกส่วนมาจาก “ขนาดอาหาร” ครับ

ซึ่งก็คือปริมาณที่มากเกินพอดี ทั้งจากอาหารและเครื่องดื่มครับ เพราะโดยมากแล้วการสั่งอาหารมารับประทานต่อ 1 ส่วนนั้นเรามักจะพยายามรับประทานให้หมดโดยไม่รู้ตัวว่านั่นมันเยอะเกินไปสำหรับหนึ่งคน

ด้วยกลไกการขายที่มาเนียนๆ

10 เทคนิคอดด้วยการ “ลดขนาด”

ในการที่คนคนหนึ่งจะอ้วนนั้นไม่ใช่เรื่องยากแต่ก็ไม่ง่ายนัก ต้องเริ่มจากกินน้ำตาลชนิด “ฟรุกโตส” ให้มากๆไว้ก่อน แล้วตามด้วย “ปริมาณ” ที่มากขนาดที่ปกติไม่กินกัน

น้ำอัดลมรีฟิลแก้วยักษ์

พิซซ่าถาดโตแทบลงไปนอนได้

หรือกินอาหารแบบเพิ่มขนาดพิเศษพร้อมปรุงรสอย่างสนุกมือ

อย่างนี้ก็จะได้ทั้งพุงและโรคมาสมใจในเวลาไม่นานครับ มีเทคนิครับประทานอาหารให้อร่อยได้ตามใจแต่ไม่อ้วนมาฝาก ถ้าอยากลองทำขอให้เริ่มดังต่อไปนี้ครับ

1. ลดกล่องใหญ่ ใช้กล่องเล็ก ได้แก่พวก “เครื่องดื่ม” ครับ ทั้งนม,น้ำผลไม้และน้ำอัดลม ขอให้เลือกซื้อขนาดเล็กไว้แทนที่จะซื้อกล่องใหญ่เพราะอาศัยความคุ้มเพราะมันจะทำให้กลุ้มทีหลังจากการกะปริมาณที่แสนลำบากจากของกล่องใหญ่ เผลอๆกินไปเดี๋ยวเดียวหมดกล่องใหญ่ไม่รู้ตัวด้วยซ้ำ เลยอยากย้ำให้เลือกซื้อหาของกินที่เป็นหน่วยเล็กๆเข้าไว้ ขอให้ทำใจกับราคาที่เพิ่มขึ้นไม่กี่บาทดีกว่าถึงฆาตเพราะเผลอกินมากไม่รู้ตัวครับ

2. ไม่เพิ่มห้าบาท ความสามารถอย่างหนึ่งของร้านสะดวกซื้อหรือฟาสต์ฟู้ดคือสามารถดึงเงินเล็กๆน้อยๆออกจากกระเป๋าของเราได้ต่ออีกจากการยื่นข้อเสนอเพิ่มขนาด,เติมท็อปปิ้ง,แลกซื้อขนมถุงเล็กถุงน้อย แม้จะเป็นเหรียญบาท 5 บาทหรือ 10 บาท สิ่งที่ดูเป็นเศษเงินเล็กน้อยนี้รวมกันเข้าเป็นเม็ดเงินมหาศาลสำหรับธุรกิจได้มากเลยครับและในทางกลับกันมันก็เป็นการซื้อปัญหาสุขภาพที่ราคาแพงสุดสำหรับคนกิน

3. ช่วยชาติประหยัดข้าว ถ้าอาหารหลักของเราคือข้าว 1 จานต่อมื้อ ขอให้ถือว่าเป็นส่วนสำคัญที่เราอาจหาทางลดการบริโภคลงกว่าเดิมได้บ้างครับ เพราะข้าวที่มากเกินไปทำให้ร่างกาย “หิวเร็ว” และที่สำคัญคือเสี่ยง “ได้แป้งเกิน” จากการเพลินกินข้าว ขอให้ท่านลองลดลงสักมื้อละช้อนสองช้อนก่อนแล้วเปลี่ยนเป็นแป้งอย่างอื่นบ้างก็จะดีครับ

4. ไม่เฝ้ากินซ้ำ การจะลดหุ่นให้ได้มีข้อสำคัญประการหนึ่งคือการไม่กินอาหารซ้ำซากครับ การรับประทานแต่เมนูโปรดบ่อยไปจะทำให้ได้ปริมาณสารอาหารซ้ำๆที่บางอย่างไปสะสมทำอันตรายกับร่างกายได้ ทำให้เพิ่มรอบเอว ทำให้เกิดภาวะดื้อต่ออินสุลิน ทำให้เกิดสารพิษสะสมฯลฯ ดังนั้นถ้าชอบอะไรก็ขอให้แบ่งกินอย่างหลากหลายจะดีที่สุดครับ

5. ย้ำทีละชาม อาหารอะไรๆก็มักมาทีละชามทีละจานอยู่แล้ว แต่บางครั้งพอมันอร่อยติดใจเราก็สั่งเสกให้มันมีชามที่สองต่อมา การรับประทานเบิ้ลเช่นนี้จะทำให้สุขภาพยับเยินโดยง่ายครับ เพราะความที่ติดนิสัยกินชามเดียวไม่อิ่ม ถ้าอยากกินอร่อยโดยไม่เสียสุขภาพขอให้พยายามเตือนตัวเองไว้ให้พอใจกับ “ชามเดียว” ก่อนครับ

6. ต้องถามก่อนปรุง คือดูว่าเชฟเขาได้ปรุงมาอย่าง “พอดี” แล้วหรือยัง ขออย่าตั้งหน้า “เติม” เปรี้ยว,เผ็ด,เค็ม,หวานฯลฯไปเสียก่อนที่จะได้ลิ้มรสครับเพราะรสที่ปรุงเข้าไปนอกจากทำให้เสียรสชาติเดิมแล้วยังทำให้ “เสียโอกาส” รับรสอร่อยของน้ำซุปที่เขาอุตส่าห์เคี่ยว หรือเนื้อเน้นๆของอาหารนั้นแบบที่ไม่มีการเติมแต่งใดๆเข้าไปให้เสียธรรมชาติเดิม

7. ลดยุ่งบุฟเฟ่ต์ อาหารแบบกินตามใจปากจนอิ่มหรือการเข้าหาบุฟเฟ่ต์ทุกครั้งที่มีโอกาสเช่นวันหยุดสุดสัปดาห์จะพาให้กระเพาะติดการกินจุไปโดยปริยาย เสียดายสุขภาพที่ถูกทอนลงมาทุกครั้งที่รับประทานอาหารประเภทนี้ครับ ท่านที่มีจิตใจกล้าแข็งมากจะไม่อยากทานอาหารจำพวกนี้เพราะมันเสี่ยงที่จะทำให้ต้องทานเยอะเกินจำเป็น คนกินเป็นส่วนใหญ่จะรับประทานแบบเอา “คุณภาพ(สุขภาพ)” มากกว่า “ปริมาณ” ครับ

8. อย่าเทน้ำมัน การบริโภคน้ำมันอย่างจริงจังเริ่มตั้งแต่ตั้งกะทะเจียวไข่แล้วราดน้ำมันโดยตรงลงจากขวด วิธีนี้แสนปวดใจครับทำให้เรารับประทานน้ำมันกันอย่างฟุ่มเฟือยเกินไปต่อไข่แค่ใบเดียวหรือสองใบ แต่ถ้าใช้วิธีเอาช้อนมาตักน้ำมันใส่ในกะทะแทนหรือใช้แปรงจุ่มน้ำมันทากะทะแทนก็จะช่วยให้กะปริมาณน้ำมันได้ไม่ทำร้ายสุขภาพด้วยการ “เท” อย่างสะดวกมือครับ

9. สำคัญดูหน่วย(บริโภค) อย่าลืมดูฉลากอาหารทุกครั้ง อย่างในปัจจุบันก็ได้ทำฉลากไว้ให้ดูง่ายหน้าซองอาหารอยู่แล้วแยกเป็นภาษาง่ายๆอย่างน้ำตาล,น้ำมัน,เกลือฯลฯ ทำให้ผู้บริโภคได้ทราบ แต่เรื่องสุดท้ายที่ต้องตระหนักไว้ให้ดีคือ “หน่วยบริโภค” ที่ทำให้เราได้รับสารอาหารเกินจนอ้วนหรือไม่เพราะในขนม 1 ซองหรือน้ำ 1 ขวดอาจแบ่งเป็นหลายหน่วยบริโภค หรือพูดง่ายๆคือเราไม่ควรกินหมดขวดในคราวเดียวเป็นต้น

10. ช่วยลดน้ำตาล สำคัญสุดเพราะร้ายสุดครับ เรื่องของน้ำตาลเป็นตัวการบ่อนทำลายสุขภาพคนไทยอย่างมากมายโดยเฉพาะตัวร้ายอย่าง “ฟรุกโตส” บางครั้งฉลากอาจไม่ใช้คำว่าน้ำตาลตรงๆแต่เลี่ยงไปใช้คำว่า “น้ำเชื่อมข้าวโพด” หรือคอร์นไซรัปซึ่งฟังดูแสนดีทว่ามีเบื้องหลังน่าชังกว่าที่คิดครับ เพราะมันก็คือฟรุกโตสไซรัปนั่นเองที่เป็นตัวพอกพุง,เพิ่มเบาหวานและล้างผลาญสุขภาพของเราอย่างน่าใจหายครับ

ทั้ง 10 วิธีนี้สามารถสรุปลงมาได้ง่ายๆก็คือ “ลดปริมาณ” ลง จะตรงที่ลดขนาด ลดไซส์ของอาหารและเครื่องดื่ม หรือลดการตามใจปากลงก็ได้ ถือว่าเป็นการช่วยลดไซส์อย่างใส่ใจสุขภาพทั้งสิ้น

นี่เองคือความสำคัญของ “ขนาด” อาหารครับ

ขนาดหรือปริมาณของอาหารมีความเกี่ยวพันกับขนาดรูปร่างของเราอย่างเลี่ยงไม่ได้ การใช้วิธีการกินโดยลดขนาดลงจะทำให้ท่านยังคงมีความสุขกับอาหารที่ชื่นชอบต่อไปได้โดยไม่เสี่ยงต่อการโต(ออกข้าง)ไวเกินไปนัก

อย่าทำร้ายตัวเองด้วยการสั่ง(พิเศษ)เพิ่มขนาดอาหารเลยครับ

โดย น.พ.กฤษดา ศิรามพุช