Social Icons

เคล็ดลับความงาม






เคล็ดลับริมฝีปากนุ่มน่าจุ๊บ

- ดื่มน้ำให้เพียงพอในแต่ละวัน รับประทานอาหารจำพวกผักและผลไม้ที่มีวิตามิน
- สครับริมฝีปากด้วยสูตรง่ายๆ ใช้น้ำผึ้งผสมกับน้ำตาลทราย นวดสครับเบาๆ ทิ้งไว้สักพัก หลังจากนั้นเช็ดออกด้วยผ้าสะอาดชุบน้ำอุ่น ก็จะ ช่วยให้ขุยต่างๆ บนริมฝีปากหลุดลอกออกไปได้
- ทาขี้ผึ้งหรือปิโตรเลียมเจลก่อนนอน ช่วงบำรุงริมฝีปากให้กลับมาเนียนนุ่มสดใส
- พกลิปบาล์มเพื่อเติมความชุ่มชื้นให้กับริมฝีปากระหว่างวัน เลือกแบบที่มีส่วนผสมวิตามินอี เพิ่มคุณสมบัติในการบำรุงและถนอมเรียวปาก


------------------------------------------------------------------------------------------------------------



โยเกิร์ต แหล่งของดีจากจุลินทรีย์มีชีวิต

สำหรับใครหลายๆคน ที่อาจจะเรียกได้ว่าสักครั้งในชีวิตที่ได้ลองทานโยเกิร์ตสักถ้วย บางคนก็อาจจะชอบ แต่บางคนก็ไม่ปลื้มเอาซะเลยในรสชาติของโยเกิร์ต วันนี้เราจะมาเจาะลึกกันถึงเรื่องของเจ้าโยเกิร์ตว่ามันมีดีอย่างไร แล้วหาซื้ออย่างไรให้ได้ของที่ดีที่สุด รับรองได้เลยค่ะว่าคุณจะต้องเปลี่ยนใจหันมาทานโยเกิร์ต(อีก)แน่นอน ^^
เรามาเริ่มดูกันที่ประโยชน์และคุณค่าของโยเกิร์ตเป็นอันดับแรก ที่นอกจากจะดีต่อสุขภาพภายในแล้วยังดีต่อสุขภาพภายนอกด้วย

มีประโยชน์ต่อลำไส้ใหญ่ เนื่องจากโยเกิร์ตมีจุลินทรีย์ที่จะเข้าไปช่วยเร่งการเจริญเติบโตของเหล่าจุลินทรีย์ที่เป็นประโยชน์ต่อร่างกายในลำไส้ใหญ่ โดยเจ้าจุลินทรีย์นี้จะช่วยทำลายสารอันตรายต่างๆ เช่นไนไตรท์ และไนเตรต ซึ่งเป็นสารก่อมะเร็งในร่างกาย
อุดมด้วยแคลเซียม ซึ่งนอกจากจะเป็นแร่ธาตุช่วยบำรุงกระดูกและฟันแล้ว ยังจะช่วยยับยั้งการเติบโตของเซลล์มะเร็งในลำไส้ใหญ่ที่เกิดจากกรดไขมันและน้ำดีมากผิดปกติ
มีโปรตีนสูง โดยในโยเกิร์ตขนาดปกติที่เราทานนั้นประกอบด้วยโปรตีนที่มีค่าเท่ากับ 20% ของโปรตีนที่ร่างกายควรได้รับในแต่ละวัน และไม่ต้องห่วงว่าจะแน่นท้องเพราะโปรตีนในโยเกิร์ตนั้น เป็นโปรตีนที่ย่อยง่าย
ช่วยเพิ่มภูมิคุ้มกัน จากการศึกษาพบว่าการทานโยเกิร์ตเป็นประจำวันละ 2 ถ้วย เป็นเวลา 3 เดือน จะช่วยเพิ่มระดับอินเตอร์เฟอรอนซึ่งเป็นสารชนิดหนึ่งที่ช่วยในเรื่องระบบภูมิคุ้มกันให้มีปริมาณมากขึ้น รวมทั้งแบคทีเรียในโยเกิร์ตที่ยังกระตุ้นการสร้างเม็ดเลือดขาวในการทำลายโรค
แก้อาการท้องผูก บรรเทาอาการท้องร่วง ลดกลิ่นปาก ที่เกิดจากอาหารที่เราทานเข้าไปนั้นไม่ย่อย และมีประโยชน์ต่อผู้ที่มีอาการท้องเดินเนื่องจากอาหารเป็นพิษหรือได้รับการรักษาด้วยรังสีบำบัด
ช่วยลดระดับคอเลสเตอรอล จากการศึกษาพบว่า โยเกิร์ตสามารถลดปริมาณคอเลสเตอรอล เนื่องจากจุลินทรีย์ในโยเกิร์ตบางชนิดสามารถย่อยคอเลสเตอรอลได้
การเลือกซื้อโยเกิร์ตให้ได้ของดี ปลอดภัย เพื่อประโยชน์สูงสุด

คุณควรเลือกรสธรรมชาติ เพราะการรับประทานหลายรส แทนที่จะสุขภาพดี อาจเสี่ยงต่อเบาหวานจากน้ำตาลได้ โดยเฉพาะในผู้สูงอายุ และโรคความดันโลหิตสูงหัวใจ ดังนั้นควรเลือกทานชนิดไขมันต่ำ
ดูวันเดือนปีที่ผลิต โดยเฉพาะควรเลือกโยเกิร์ตที่มีวันที่ผลิตให้ใกล้เคียงกับวันที่เราซื้อให้มากที่สุด เพราะจะได้โยเกิร์ตที่มีจุลินทรีย์ที่มีชีวิตมากที่สุด
เมื่อคุณลองเปิดฝาผลิตภัณฑ์ออก ให้สังเกตว่า โยเกิร์ตไม่ควรมีการแยกชั้นกันเป็นน้ำกับนม
เพียงเท่านี้ ทุกท่านก็สามารถอร่อยไปพร้อมกับประโยชน์ของโยเกิร์ตได้ ซึงนอกจากจะทานได้ หากโยเกิร์ตที่ใกล้หมดอายุแล้วหรือทานไม่หมด สาวๆอาจลองนำมาพอกหน้า ถือเป็นการขัดหน้าไปในตัวด้วยนะคะ

------------------------------------------------------------------------------------------------------------



เคล็ดลับการดูแลตัวเองให้ดูอ่อนกว่าวัยด้วยวิธีง่าย ๆ 

  แม้ในความเป็นจริงคนส่วนใหญ่จะ เข้าใจกฎเกณฑ์ เรื่องอายุและรูปลักษณ์ภายนอก กันเป็นอย่างดีว่า สองสิ่งนี้เป็นสิ่งที่ผันเปลี่ยนไปตามกาลเวลาควบคู่กันไปตามธรรมชาติ ทว่าผู้ชายบางคนก็ปล่อยเนื้อปล่อยตัวให้ร่วงโรยไปตามอายุ และไม่คิดจะหันกลับมาดูแลตัวเอง แต่ในขณะเดียวกันก็มีบางคนที่ท้าทายธรรมชาติด้วยการรักษาความหนุ่มเอาไว้ เพื่อภาพลักษณ์ที่ดูดี แถมยังดูไม่แตกต่างไปจากตอนหนุ่ม ๆ เลยสักนิด ฟังแบบนี้แล้วอาจทำให้ใครหลายคนแอบสงสัยกันอยู่ไม่น้อยว่าพวกเขาทำได้อย่าง ไร ในวันนี้เรามีคำแนะนำดี ๆ เกี่ยวกับวิธีการดูแลตัวเองให้ดูอ่อนเยาว์แบบง่าย ๆ มาฝากกัน รับรองว่าเป็นวิธีที่คุณสามารถทำได้เองและไม่ต้องเจ็บตัวไปกับการทำศัลยกรรม อีกด้วย

1. ออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ
สิ่งหนึ่งที่ทำให้ผู้ชายทั้งหลายดูมีอายุมากขึ้น (บางคนดูแก่กว่าอายุจริงด้วยซ้ำ) นั่นเป็นเพราะว่า กล้ามเนื้อส่วนต่าง ๆ ของร่างกายเริ่มหย่อนคล้อยไม่กระชับเหมือนในสมัยหนุ่ม ๆ ดังนั้นหากคุณต้องการจะรักษาและคงความเฟี้ยวเอาไว้ โดยไม่สนใจว่าตัวเลขของอายุจะเดินหน้าไปไวสักแค่ไหน ก็ควรหมั่นออกกำลังกายเพื่อให้กล้ามเนื้อส่วนต่าง ๆ ของร่างกายได้ทำงานบ้าง อีกทั้งยังช่วยกระชับและลดไขมันส่วนเกินอีกด้วย

          ทั้งนี้ ควรออกกำลังกายให้ได้อย่างน้อยอาทิตย์ละ 3 ครั้ง ครั้งละประมาณ 30 - 60 นาที (ระยะเวลาในการออกกำลังกายขึ้นอยู่กับศักยภาพร่างกายของแต่ละคน) แล้วคุณก็จะสัมผัสได้ถึงความรู้สึกสดชื่นสดใสเหมือนสมัยหนุ่ม ๆ เลยล่ะ นอกจากนี้การออกกำลังกายยังช่วยลดน้ำหนักและลดความเสี่ยงต่อการเป็นโรคต่าง ๆ ด้วย เช่น โรคหัวใจ โรคความดันโลหิตสูง โรคเบาหวาน โรคกระดูกพรุน โรคเส้นเลือดอุดตัน และยังช่วยกระตุ้นการหลั่งสารเซโรโทนินสารที่ช่วยบรรเทาความเครียดได้อีก ต่างหาก

2. จัดแต่งทรงผมให้ดูดีอยู่เสมอ
ไม่มีอะไรจะทำให้ผู้ชายดูโทรมได้เท่ากับผมเผ้าที่รุงรัง กระเซอะกระเซิง ไม่ได้ทรงอีกแล้ว หากไม่อยากหมดหล่อในสายตาของคุณผู้หญิง คุณควรจัดแต่งทรงผมให้ดูดีอยู่เสมอ โดยทรงผมที่เหมาะสมกับหนุ่มรุ่นใหญ่ที่สุดก็คือ ผมสั้น ซึ่งคุณอาจใช้ผลิตภัณฑ์จัดแต่งทรงผมอย่าง เจล มูส หรือสเปรย์ช่วยตกแต่งทรงผมด้วยก็ได้ แต่หากใครที่มีปัญหาผมร่วงหรือเส้นผมบาง หากใจกล้าหน่อยก็สกินเฮดไปเลย เพราะผู้ชายกว่า 40 เปอร์เซ็นต์ผมจะเริ่มบางลง โดยเฉพาะชายที่อยู่ในช่วงอายุ 35 ปีขึ้นไป แต่ถ้าคุณรู้สึกไม่มั่นใจกับทรงสกินเฮดของตัวเอง ก็ลองมองหายาปลูกผมดี ๆ เอาไว้ใช้แทน หรือไม่ก็ปรึกษาผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทางไปเลยก็ได้ เพื่อสร้างความมั่นใจให้กับลุคของตัวเอง

3. โกนหนวดโกนเครากันบ้าง
หนวดและเคราบนใบหน้าเปรียบเสมือนดาบสองคมที่สามารถทำให้คุณดูดีขึ้น แต่อีกทางหนึ่งมันก็สามารถทำร้ายตัวคุณได้เหมือนกัน หากใบหน้าคุณไม่เหมาะกับการไว้หนวดเครา หรือปล่อยให้หนวดเครารกรุงรังจนทำให้คุณดูแก่กว่าอายุจริง ดังนั้นควรโกนทิ้งไปให้หมด โดยเหลือไว้เพียงใบหน้าที่ดูสะอาดสะอ้าน และยังช่วยให้คุณดูเด็กลงมากขึ้น แต่ถ้าอยากจะไว้จริง ๆ ก็อาจอัพเดทเทรนด์หนวดเคราจากเหล่าดาราแล้วลองทำตามดูบ้างก็ได้ เพื่อเปลี่ยนลุคของตัวเองให้แตกต่างออกไปจากเดิมบ้าง ทว่าข้อสำคัญที่ไม่ควรลืมหากจะไว้หนวดเคราจริง ๆ ก็คือต้องเลือกทรงที่รับกับรูปหน้าของคุณมากที่สุด จึงจะช่วยให้ดูดีขึ้นได้

4. ดูแลผิวด้วยผลิตภัณฑ์บำรุงต่าง ๆ ที่เหมาะกับสภาพผิวของตัวเอง
สิ่งสำคัญที่จะทำให้คุณดูอ่อนเยาว์ลงไม่ใช่แค่การดูแลทรงผม หรือการแต่งตัวให้ดูดีเท่านั้น ทว่าคุณยังควรดูแลผิวพรรณควบคู่กันไปด้วย โดยหันมาใช้ผลิตภัณฑ์บำรุงผิวให้ติดเป็นนิสัย โดยเฉพาะในส่วนของใบหน้า ทั้งนี้ ควรสครับใบหน้าสัปดาห์ละ 2 ครั้ง เพื่อขจัดเซลล์ผิวที่ตายแล้วให้หลุดออกมา นอกจากนี้เวลาโกนหนวดนั้นให้ใช้ครีมโกนหนวดที่มีส่วนผสมของมอยส์เจอไรเซอร์ ก่อนการโกนทุกครั้ง เพื่อป้องกันการหลุดร่อนของเซลล์ผิวชั้นนอก และคงความชุ่มชื่นให้กับผิวของคุณ รวมไปถึงทาครีมบำรุงรอบดวงตา เพื่อป้องกันรอยหมองคล้ำบริเวณใต้ตาด้วย และที่สำคัญอย่าลืมดูแลสุขภาพริมฝีปากให้นุ่มชุ่มชื้นอยู่เสมอด้วยลิปมัน เช่นกัน

          ทั้งนี้ ทั้งนั้น สำหรับคนที่ไม่ค่อยมีเวลาดูแลตัวเองมากนัก เพราะต้องดูแลทั้งงานและครอบครัว คุณอาจจะเริ่มปฏิบัติตามคำแนะนำสักข้อสองข้อดูก็ได้ แล้วค่อย ๆ ปรับพฤติกรรมให้เหมาะสมเพิ่มเติมในภายหลัง ออ...นอกจากนี้ให้พยายามหลีกเลี่ยงสิ่งที่จะทำให้คุณดูแก่ก่อนวัยด้วยเช่น การสูบบุหรี่ ดื่มแอลกอฮอลล์ หรือปาร์ตี้แบบหามรุ่งหามค่ำ เป็นต้น เพียงเท่านี้คนอื่น ๆ ก็เดากันไม่ออกแล้วล่ะว่าคุณอายุเท่าไหร่กันแน่