Social Icons

วันจันทร์ที่ 10 มิถุนายน พ.ศ. 2556

การออกกำลังกายเพื่อสุขภาพ




เมื่อพูดถึงการออกกำลังกาย คนส่วนใหญ่มักนึกถึงการออกแรงโดยใช้ส่วนต่างๆของร่างกาย ทำกิจกรรมต่างๆเพื่อให้ร่างกายมีสุขภาพแข็งแรง ซึ่งจริงๆแล้วการออกกำลังกายคือการทำให้กล้ามเนื้อได้ทำงานมากกว่าปกติจากกิจกรรมในชีวิตประจำวันโดยการเคลื่อนไหวร่างกาย เพื่อช่วยให้ร่ายการทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ และช่วยผ่อนคลายความตึงเครียด 

การออกกำลังกายเป็นประจำนั้นช่วยให้ทั้งร่างกายและจิตใจของคุณแข็งแรง และยังช่วยให้คุณมีสุขภาพดีแถมมีความสุข การออกกำลังกายยังช่วยให้เราควบคุมน้ำหนักให้อยู่ในเกณฑ์ปกติ ในชีวิตประจำวันของเราเต็มไปด้วยโอกาสมากมายที่จะนำพลังงานไปใช้ให้เกิดประโยชน์ 

ประโยชน์ที่เห็นชัดเจนคือ การแปลงโฉมรูปร่าง โดยการออกกำลังกายเพื่อเพิ่มปริมาณการเผาผลาญและลดปริมาณไขมันสะสมในร่างกาย โดยกิจกรรมที่จะช่วยให้คุณลดน้ำหนักและกระชับกล้ามเนื้อได้ดีคือ การออกกำลังกายแบบแอโรบิคอย่างการเดินเร็ว วิ่งจ็อกกิ้ง โรลเลอร์เบลด สควอช เทนนิส และเต้นแอโรบิค จะช่วยให้คุณลดไขมันในร่างกายได้ ส่วนการออกกำลังกายแบบ weight training จะช่วยเพิ่มมวลกล้ามเนื้อ ซึ่งจะทำให้คุณมีรูปร่างที่กระชับและดูดี

นอกจากการแปลงโฉมรูปร่าง การออกกำลังกายยังช่วยในเรื่องของการชะลอความเสื่อมของสมอง เพิ่มความแข็งแรงและหนาแน่นของกระดูก ทำให้ผิวสวย ช่วยลดความเครียด และหลับสบายมากขึ้นอีกด้วย

สุขภาพแข็งแรงขึ้นได้ใน 10 นาที

 
หลายๆคนมักจะพูดว่าไม่มีเวลาออกกำลังกาย แต่หากเราใส่ใจที่จะดูแลสุขภาพของตนเอง สุขภาพดีก็เกิดขึ้นได้ โดยใช้เวลาแค่ 10 นาที ต่อกิจกรรมง่ายๆที่สามารถทำได้ระหว่างวัน แต่สิ่งสำคัญคือคุณต้องหมั่นทำเป็นนิสัย ขอแนะนำกิจกรรมที่คุณสามารถทำได้ง่ายๆ คือ

  • ลอง “พักเดินเล่น” 10 นาที แทนที่จะเป็น “พักกินขนม”ในขณะที่คุณทำงาน
  • ลองเดินขึ้นบันได 10 นาที แทนการใช้ลิฟท์ (คุณจะได้เผาผลาญ 180 กิโลแคลอรี)
  • ใช้เวลา 10 นาที ดูดฝุ่น (คุณจะได้เผาผลาญ 38 กิโลแคลอรี) ทำสวน (50 กิโลแคลอรี) หรือตัดหญ้า (70 กิโลแคลอรี)
  • พาสุนัขไปเดินเล่นราว 10 นาที เพื่อเผาผลาญ 42 แคลอรี
  • เต้นแอโรบิคไปกับเพลงที่ชื่นชอบ 10 นาที เพื่อเผาผลาญ 100 แคลอรี
จะเห็นได้ว่ากิจวัตรประจำวันของเรานั้นเอื้อโอกาสมากมายต่อการออกกำลังกาย ขอเพียงแค่คุณเริ่มต้นลงมือทำเท่านั้น สุขภาพที่ดีก็อยู่ไม่ไกลเกินเอื้อม

การออกกำลังกายเฉพาะส่วนง่ายๆ เพียง 10 นาที

 
สัดส่วนในร่างกายมักเป็นปัญหาหนักใจสำหรับสาวๆ ที่หมั่นดูแลร่างกายอย่างสม่ำเสมอเพราะเวลาลดน้ำหนักแล้ว สัดส่วนที่อยากให้ลดลงกลับไม่ลดตามความต้องการ เช่น บางคนแม้จะมีรูปร่างที่ผอม หรือหน้าท้องแบนราบ หากแต่ส่วนหนึ่งที่ขัดใจ เพราะลดอาหารหรือปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการบริโภคอย่างไรก็ไม่ลงเสียทีคือช่วงต้นขา หรือบางคนลดน้ำหนักแล้ว สัดส่วนลดลงทั้งตัวแต่ที่ไม่ยอมลดลงคือต้นแขน ทำให้ไม่กล้าใส่เสื้อแบบเปิดแขน หรือบางคนความอ้วนไปสะสมอยู่ที่หน้าท้องเพียงส่วนเดียวทำให้สาวๆหลายๆคนปวดหัว ไม่รู้จะทำอย่างไร
นี่คือเคล็ดลับง่ายๆ ในการออกกำลังกายเฉพาะส่วนสำหรับสาวออฟฟิศที่อาจจะมีเวลาไม่มาก แต่อยากได้รูปร่างที่สมส่วน

กลเม็ดลดต้นขา

 
ท่าที่ 1 : ท่าที่ง่ายและได้ผลที่สุดคือการปั่นจักรยานอากาศ นอนราบกับพื้นแล้วเหยียดขาเป็นแนวตรงตั้งฉากกับพื้นจากนั้นถีบจักรยานไปเรื่อยๆ ทำให้ได้มากกว่า 100 ครั้ง ถ้าเป็นไปได้ให้ทำเป็นประจำทุกวัน

ท่าที่ 2 : นอนตะแคงซ้าย หนุนศีรษะด้วยมือด้านซ้าย ขาซ้ายงอเล็กน้อย จากนั้นค่อยๆ ยกขาด้านขวาขึ้นให้สูงที่สุดเท่าที่จะทำได้ จากนั้นนับ 1 ถึง 10 แล้วค่อยๆ เอาลง ก่อนที่ขาจะถึงพื้นค้างไว้เหนือพื้นเล็กน้อยสัก 5 วินาที จะรู้สึกได้ถึงความเกร็งของบริเวณต้นขา ทำอย่างนี้ 10 ครั้ง แล้วจึงสลับข้าง

กลเม็ดลดต้นแขน

 
ท่าที่ 1
 เริ่มจากยืนตรงแยกเท้าออกจากกันประมาณความกว้างของช่วงไหล่ ถือดัมเบลไว้ในมือทั้งสองข้างแล้วงอแขนแนบลำตัว โดยให้ดัมเบลอยู่ระดับไหล่ ทำซ้ำกันอย่างนี้ 3 เซท เซทละ 10 ครั้ง

ท่าที่ 2 ท่าที่สองยืนตัวตรง แยกเท้าออกจากกันประมาณความกว้างของไหล ถือดัมเบลไว้ในมือทั้งสองข้าง เอามือแนบลำตัว แล้วยกขึ้นให้เป็นท่ากำลังกางแขน โดยให้เดัมเบลสูงระดับไหล่ค้างไว้นาน 3 วินาที ทำซ้ำกันอย่างนี้ 3 เซท เซทละ 10 ครั้ง

ท่าที่ 3 ท่าที่สามต้องมีเก้าอี้เป็นส่วนประกอบ ให้นั่งลงกับเก้าอี้ มือทั้งสองข้างถือดัมเบลวางไว้บนหัวเข่า จากนั้นเหยียดแขนออกไปทางด้านหน้าให้ตรงโดยให้ดัมเบลอยู่สูงระดับไหล่ทำซ้ำกันอย่างนี้ 3 เซท เซทละ 10 ครั้ง

กลเม็ดลดหน้าท้อง

 
ท่าที่ 1
 เริ่มต้นด้วยการนอนราบกับพื้น สูดหายใจเข้าออกให้เต็มปอด ขาสองข้างยกขึ้นทำมุมฉากกับพื้น กางข้อศอกออกไปให้มากที่สุด โดยใช้มือแตะที่ใบหู 

ท่าที่ 2 รวบรวมกำลังช่วงท้องยกตัวขึ้นช้าๆ ให้กล้ามเนื้อตั้งแต่หน้าท้องช่วงบนลงมาเกิดอาการหดเกร็ง แล้วค่อยๆ ทิ้งตัวลงนอนกับพื้น 
ช่วงแรกๆ ทำให้ได้สักวันละ 20 ครั้ง หลังจากนั้นค่อยๆ เพิ่มจำนวนขึ้นจนคงที่ ทำให้สม่ำเสมอทุกวันติดต่อกันเป็นเวลา 2-3 เดือน คุณจะเริ่มเห็นความเปลี่ยนแปลงของหน้าท้องที่กระชับ ดูมีสุขภาพดีขึ้นแน่นอนค่ะ

จะเห็นได้ว่าการออกกำลังกายจริงๆแล้วทำได้ง่ายและก็ใช้เวลาน้อยมาก แต่ให้ประโยชน์มากมาย ลองเอาเคล็ดลับเหล่านี้ไปปฏิบัติตาม เพื่อหุ่นสวย สุขภาพดี เริ่มต้นตั้งแต่วันนี้ เพื่อตัวคุณเอง