โรควัณโรคปอดและการป้องกัน
วัณโรค ซึ่งเป็นแบคทีเรียชื่อ ไมโครแบคทีเรียมทูเบอร์คูโลซิส บางครั้งเรียกว่า เชื้อเอเอฟบี เป็นโรคติดต่อที่เรื้อรัง และเป็นได้กับอวัยวะทุกส่วนของร่างกาย เช่น ที่ต่อมน้ำเหลือง กระดูก เยื่อหุ้มสมอง ปอด แต่วัณโรคที่เป็นกันมากและเป็นปัญหาทางสาธารณสุขอยู่ในขณะนี้ก็คือ วัณโรคปอด มักพบในคนแก่คนที่ร่างกายอ่อนแอจากการเป็นโรคอื่น ๆ มาก่อน เช่น หวัด หัด ไอกรน พวกติดยาและโรคเอดส์และในคนที่ตรากตรำทำงานหนัก พักผ่อนไม่พอ ขาดอาหาร ดื่มเหล้าจัด หรือในคนที่มีประวัติใกล้ชิดกับคนที่เป็นโรค เช่น นอนห้องเดียวกัน หรืออยู่บ้านเดียวกัน
สาเหตุของวัณโรคปอด
วัณโรคปอดเกิดจากเชื้อวัณโรค ซึ่งเป็นแบคทีเรียชื่อ ไมโครแบคทีเรียมทูเบอร์คูโลซิส บางครั้งเรียกว่า เชื้อเอเอฟบีวัณโรคปอดมักจะมีการติดต่อโดยการสูดเอาละอองเสมหะของผู้ป่วยที่ไอจาม หรือหายใจรด ซึ่งผู้ติดเชื้อจะสูดเอาเชื้อวัณโรคเข้าไปในปอดโดยตรง ดังนั้นผู้ติดเชื้อจึงมักมีประวัติสัมผัสใหล้ชิด เช่น นอนห้องเดียวกัน หรืออยู่บ้านเดียวกันกับผู้ป่วยวัณโรคปอด
ส่วนการติดต่อโดยตรงทางอื่นนับว่ามีโอกาสน้อยมาก แต่ก็มีบางกรณีที่อาจพบได้ก็โดยการกลืนเชื้อที่ติดมากับอาหารหรือภาชนะ โดยเชื้อจะเข้าทางต่อมทอนซิลหรือลำไส้ แล้วเข้าไปอยู่ในต่อมน้ำเหลือง ซึ่งบางครั้งอาจลุกลามเข้ากระแสเลือดไปยังปอด สมอง กระดูก ไต หรืออวัยวะอื่น ๆ ได้
ผู้ป่วยมักจะได้รับเชื้อวัณโรคเข้าไปในร่างกายครั้งแรกในระยะที่เป็นเด็กหรือในบางรายอาจได้รับเชื้อตอนโตก็ได้โดยไม่มีอาการแสดงแต่อย่างไร ยกเว้นบางคนอาจมีอาการของปอดอักเสบเล็กน้อยอยู่สักระยะหนึ่งแล้วหายไปได้เอง เพราะร่างกายจะสร้างภูมิต้านทานขึ้นกำจัดเชื้อวัณโรค ดังนั้น ผู้ป่วยส่วนใหญ่ที่ได้รับเชื้อวัณโรคครั้งแรกจึงมักจะเข็งแรงเป็นปกติดี
แต่อย่างไรก็ตาม เชื้อวัณโรคที่ยังอาจหลงเหลืออยู่บ้าง ซึ่งก็จะหลบซ่อนอยู่ในปอดและอวัยวะอื่น ๆ อย่างสงบนานแรมปี ตราบใดที่ร่างกายแข็งแรงดีก็จะไม่เกิดโรคแต่อย่างไร แต่ถ้าต่อมาซึ่งอาจกินเวลาหลายปีหรือสิบ ๆ ปี เมื่อร่างกายเกิดอ่อนแอด้วนสาเหตุใดก็ตาม เชื้อที่หลบซ่อนอยู่ก็จะแบ่งตัวเจริญเติบโตจนทำให้เกิดเป็นวัณโรคของปอด
นอกจากนี้ ในผู้ป่วยบางรายที่รับเชื้อวัณโรคเข้าสู่ร่างกายเป็นครั้งแรก เชื้อก็อาจลุกลามจนกลายเป็นวัณโรคในทันทีได้ ทั้งนี้ บางกรณีก็อาจกลายเป็นวัณโรคชนิดร้ายแรงได้
อาการของวัณโรคปอด
ผู้ติดเชื้อวัณโรคปอดมักจะค่อย ๆ ป่วยด้วยอาการของวัณโรคปอดดังต่อไปนี้
มีอาการอ่อนเพลีย
บางครั้งอาจะมีมีอาการเบื่ออาหาร และมีน้ำหนักลด
อาจมีอาการครั่นเนื้อครั่นตัว หรือเป็นไข้ต่ำ ๆ ตอนบาย
มีเหงื่อออกตอนกลางคืน
มีอาการไอ โดยระยะแรก ๆ ไอแห้ง ๆ ต่อมาจึงมีเสมหะ และไอมากเวลาเข้านอน หรือตื่นนอนตอนเช้า หรือหลังอาหาร ทั่งนี้ อาการไอจะเรื้อรังเป็ฯแรมเดือน แต่บางคนอาจไม่มีอาการไดเลยก็ได้
ผู้ป่วยอาจรู้สึกแน่นหรือเจ็บหน้าอกโดยที่ไม่มีอาการไอ
ในรายที่เป็นมาก อาจจะมีอาการหอบหรือไอเป็นเลือดก้อนแดง ๆ หรือดำ ๆ แต่น้อยรายที่จะมีเลือดออกมากถึงกับช็อก
ในรายที่เป็นน้อย ๆ อาจไม่มีอาการอะไรเลย และมักตรวจพบโดยบังเอิญจากการเห็นจุดในปอดบนภาพถ่ายเอกซเรย์
ผู้ป่วยบางรายอาจมีอาการเป็นไข้นานเป็นแรมเดือน โดยไม่รู้สาเหตุ
ในกรณีที่เกิดในเด็ก อาการมักจะรุนแรงกว่าผู้ใหญ่ เพราะเด็กมีภูมิคุ้มกัน
การป้องกันวัณโรคปอดสามารถทำได้ดังนี้
การป้องกันวัณโรคปอดสามรถป้องกันได้โดยการฉีดวัคซีนบีซีจี ในเด็กและผู้ที่มีผลการทดสอบทูเบอร์คูลิน เป็นลบ ทั้งนี้ในปัจจุบันตามโรงพยาาลต่าง ๆจะทำการฉีดวัคซีนนี้ให้แกทารกตั้งแต่แรกเกิดเพื่อเป็นการป้องกันวัณโรค ซึ่งโดยทั่วไปมักฉีดให้เพียงเข็มเดียว
ในกรณีของผู้ที่สัมผัสโรค โดยเฉพาะในเด็กเล็กหรือทารก แพทย์อาจให้รับประทานยาไอเอ็นเอช เพื่อเป็นการป้งอกันเป็นเวลา 1 ปี